MGC ยื่นไฟลิ่ง เตรียมพร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO

MGC ยื่นไฟลิ่ง เตรียมพร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO
MGC-ASIA อยู่ระหว่างยื่นไฟล์ลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมพร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ คาดว่า ก.ล.ต.จะอนุมัติไฟลิ่ง และพิจารณากำหนดช่วงเวลาขาย และราคาที่จะเสนอขาย ภายในเดือน เมษายน 2566 พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ในไม่ช้านี้

สำหรับมิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ ‘Lifestyle Mobility Ecosystem’ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 20 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘หนึ่งในผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’

โดย MGC-ASIA มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ประกอบด้วย ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์และบิ๊กไบค์ระดับโลก ได้แก่ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda, BMW Motorrad และ Harley-Davidson ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเรือยอชท์ Azimut รายเดียวในประเทศไทย และผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเรือแม่น้ำ Chris-Craft แต่เพียงผู้เดียวในไทยและอาเซียน

รวมถึงรถยนต์มือสองพร้อมการรับประกัน ธุรกิจจัดหาลูกค้าสำหรับบริการให้เช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว VistaJet และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ ธุรกิจบริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ

รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและช่วยเสริมสร้างรายได้ระยะยาว อาทิ บริการทางการเงินครบวงจร สำหรับยานยนต์หรูและมารีน (Alpha X) นายหน้าประกันภัย (Howden Maxi) บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล เป็นต้น

กลุ่มบริษัทฯ ได้พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างจุดแข็งและความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรม ดังนี้

1) การดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร ภายใต้ MGC-ASIA Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และมีธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ

2) เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย มีความน่าเชื่อถือ และมีตำแหน่งทางการตลาดที่โดดเด่น

3) เป็นผู้นำในธุรกิจการให้บริการหลังการขาย และซ่อมบำรุงรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกกลุ่ม

4) ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร มีวิสัยทัศน์ในการนำพาธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ขณะเดียวกัน ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการบริหารความเสี่ยงและการปรับตัวทางกลยุทธ์ ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตอย่างมั่นคง โดยสะท้อนจากผลประกอบการในปี 2563 2564 และ 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 20,275.3 ล้านบาท 21,350.3 ล้านบาท และ 23,076.2 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.7% ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิปี 2563 2564 และ 2565 อยู่ที่ 188.8 ล้านบาท 295.5 ล้านบาท และ 595.6 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเพิ่มของรายได้จากการขายและบริการ การเพิ่มของอัตรากำไรขั้นต้น

ขณะที่สัดส่วนต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

 

 

 

TAGS: #MGC #IPO #SET