MASTER ฤกษ์ดีย้ายเทรด SET ระบุอยู่ระหว่างศึกษา ขยายไปอินโดฯ รับความต้องการบูม

MASTER ฤกษ์ดีย้ายเทรด SET ระบุอยู่ระหว่างศึกษา ขยายไปอินโดฯ รับความต้องการบูม
MASTER ฤกษ์ดีย้ายเข้ากระดานเทรด SET หวังขยายฐานนักลงทุนให้เพิ่มสูงขึ้น ดึงสถาบัน-กองทุนใน-ตปท. เข้าถือหุ้น พร้อมศึกษาตั้งโรงพยาบาลที่ประเทศอินโดนีเซีย

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTERกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศให้หุ้น MASTER ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มซื้อขายในกระดาน SET ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป 

ซึ่งบริษัทฯมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายฐานนักลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านบริษัทฯได้มีการเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง และพบว่าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันกองทุนไทยมีสัดส่วนการถือหุ้นใน MASTER อยู่ที่ 12% ขณะที่กองทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 3% จากต้นปี 2566 อยู่ที่ 1% 

ด้านลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตได้ดีรับช่วงไฮซีซั่น

โดยอัตราการเติบโตของหัตถการจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับเห็นยอดการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าต่างชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอีก 10-15% สอดคล้องกับการบริหารจัดการในด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และกลับไปยังระดับเดิม เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการเติบโตของบริษัทฯให้ดียิ่งขึ้น 

ประกอบกับลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากอินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว ที่วางเป้าหมายสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศอยู่ที่ 30% ภายในสิ้นปีนี้ จาก ณ ปัจจุบันอยู่ 25.85% และในปีหน้าเพิ่มเป็น 30-40% ด้วยกลยุทธ์ขยายตลาด และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับภูมิภาค

นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหวางขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เบื้องต้นจะเป็นการสร้างโรงพยาบาลที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 2/2568 

สำหรับในปีนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20%จากปีก่อน โดยเน้นเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเป็นกิจการระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาค โดยใช้จุดแข็งทางด้านระบบและการจัดการ ผนึกกำลังสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกัน ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder-Cross Selling และ Cross Synergy ซึ่งถูกออกแบบให้เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและรองรับการเติบโตของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

TAGS: #MASTER