ปัจจุบัน Climate Change ได้รับความสนใจจากคนทั้งโลก ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องมีการปรับตัว ซึ่งการใช้เชื้อเพลิงทดแทนที่เป็นพลังงานหมุนเวียนจึงถือเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกรูปแบบหนึ่ง
จักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKE กล่าวว่า แม้ว่าแรกเริ่มบริษัทจะทำธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติ NGV แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวเริ่มมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของความต้องการในตลาด ดังนั้น การแตกไลน์ขยายการลงทุนต่อยอดในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเข้ามาทดแทนธุรกิจเดิมเพื่อสร้างการเติบโตจึงสำคัญ
ที่ผ่านมา SKE ได้มีการเพิ่มทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการพลังเชื้อเพลิงขยะ (RDF) ไม่ว่าจะเป็นขยะเหลือใช้ ขยะชุมชน ขยะครัวเรือน และขยะอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นที่บริษัทนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง เพื่อส่งให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงถ่านหิน และมีนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สำหรับ ปัจจุบันบริษัทเหลือสัญญาบรรจุก๊าซให้กับ ปตท. อีกประมาณ 6 ปี และมีปริมาณการบรรจุก๊าซลดลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ ดังนั้น สัดส่วนรายได้จาก NGV จึงเหลืออยู่ประมาณ 30% จากแต่เดิมอยู่ที่ 100% และในปี 2567 คาดว่าสัดส่วนจะลดลงเหลือ 20% เท่านั้น
รองลงมาคือโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงไฟฟ้าชีวมวลมีรายได้ค่อนข้างคงที่ เนื่องจากบริษัทมีสัญญาขายไฟที่ชัดเจน คิดเป็นมูลค่ารายได้อยู่ที่ 300 ล้านบาท
วางงบลงทุนปีนี้ 100 ล้านบาท ลุย RDF เต็มสูบ
ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้แตะที่ระดับ 1,000 ล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนธุรกิจบ่อขยะ ซึ่งถือเป็นธุรกิจต้นน้ำสำหรับการผลิตพลังงานเชื้อเพลิง RDF โดยวางงบลงทุน จำนวน 100ล้านบาท เพื่อเข้าไปทำงานร่วมกับเจ้าของบ่อขยะ
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีแผนไปเป็นเจ้าของบ่อขยะเอง เนื่องจาก การเป็นเจ้าของบ่อขยะมีความซับซ้อนในเรื่องของโครงสร้างระดับประเทศ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยบริษัทเอกชนบริษัทเดียว ดังนั้นบริษัทจึงเลือกเข้าไปร่วมทำงานกับบ่อขยะที่มีขยะสะสมในปริมาณสูง และมีการนำเข้าขยะจำนวนมากถึงปานกลางแทน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการเข้าร่วมลงทุนกับเจ้าของบ่อขยะแล้ว จำนวน 2 ราย
“ขยะที่อยู่ในบ่อฝังกลบ กับขยะสด มีลักษณะต่างกันชัดเจน โดยขยะที่อยู่ในบ่อฝังกลบที่นำไปฝังไว้แล้วสิ่งที่ขึ้นมาด้วยเวาขุดคือ ดิน ทราย ส่วนขยะสด ไม่มีดิน ไม่มีทราย แต่มีน้ำ มีกลิ่น ดังนั้น เครื่องมือในการทำงานต้องไม่เหมือนกัน ถ้าบ่อขยะไหนเป็นบ่อขยะฝังกลบ เราจะแนะนำว่าควรมีเครื่องมืออะไรบ้าง ถ้าขยะที่ไหนเป็นขยะสดเราก็แนะนำว่าควรจะมีเครื่องมีอีกแบบในการทำงาน เพื่อที่จะได้ส่งวัตถุดิบที่เราสามารถนำไปใช้ต่อได้มาให้เรา ” จักรพงส์ กล่าว
จักรพงส์ ยังให้มุมมองเกี่ยวกับต้นทุนโรงไฟฟ้าอีกว่า ปัจจุบันโรงไฟฟ้ามีหลากหลายประเภท และลักษณะที่เป็นสัดส่วนเยอะที่สุดในประเทศคือ ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีประมาณ 5,000 เมกกะวัตต์ ดังนั้น ถ้าถามตนเองในส่วนของ SKE ที่ทำธุรกิจเราจึงไม่สามารถพูดได้
แต่แน่นอนว่าต้นทุนของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กจะสูงกว่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จากการที่รัฐบาลต้องรับซื้อ แต่มองในระยะยาวเรื่องเหล่านี้จะถูกผลักดันไปเรื่อย ๆ โดยที่ต้องบูรณาการร่วมกันกับทางภาครัฐ
ดังนั้น จึงมองว่าการจะทำให้ต้นทุนโรงไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิล เปลี่ยนผ่านไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดจะต้องทำกันทั้งประเทศ ไม่มีเอกชนรายใดรายหนึ่งทำได้ เนื่องจากกการจัดโครงสร้างค่าไฟต้องเริ่มต้นตั้งแต่แผนพลังงาน เรื่องพวกนี้ต้องถูกกำหนดมาจากภาคนโยบายที่จะเปลี่ยนผ่านในเรื่องของโครงสร้างค่าไฟที่เหมาะสม
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาจากการใช้ไฟฟ้าพลังงานทดแทนคือการนำสิ่งเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ หรือที่เราเรียกว่า bio circular หรือที่หลายคนรู้จักกันในแผน BCG Model นั่นคือสิ่งที่บริษัทกำลังทำ
ฟินเทคคือความหวังในอนาคต
นอกเหนือจากการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานแล้ว บริษัทยังสนใจธุรกิจสตาร์ทอัพนั่นก็คือ “ธุรกิจฟินเทค” โดยบริษัทฯได้เข้าซื้อบริษัท แวนต้า แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Financial Technology เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก และเป็นธุรกิจที่มีโอกาส และศักยภาพในการเติบโตสูง โดยการเข้าลงทุนดังกล่าวใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก จึงเป็นเรื่องที่บริษัทค่อนข้างคาดหวังว่าจะเป็นอนาคตของกลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากภาคผลิตและภาคอุตสาหกรรม