BAFS จับมือ Thappline กดปุ่มโครงการท่อน้ำมันสายเหนือเฟส3

BAFS จับมือ Thappline กดปุ่มโครงการท่อน้ำมันสายเหนือเฟส3
BAFS เดินหน้าโครงการเชื่อมท่อน้ำมัน สระบุรี-อ่างทอง จากโรงกลั่นน้ำมันตะวันออกสู่ภาคเหนือ เปิดใช้ปี’69 ยกระดับขนส่งน้ำมัน มุ่งลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก สู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโครงการเชื่อมต่อระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 (สระบุรี-อ่างทอง) ว่า บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด (BPT) บริษัทในเครือกลุ่มบริษัท บาฟส์ (BAFS Group) ผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านระบบท่อส่งน้ำมันใต้ดิน ได้เริ่มการก่อสร้างส่วนต่อขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 (สระบุรี-อ่างทอง) ในไตรมาสที่ 1/2568

ทั้งนี้ตั้งเป้าเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2569 โดยเริ่มรับน้ำมันจากคลังน้ำมันสระบุรีของ Thappline เชื่อมต่อกับระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 1 บริเวณจังหวัดอ่างทอง ระยะทางประมาณ 52 กิโลเมตร หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ระบบท่อขนส่งน้ำมันของ BPT มีระยะทางรวม 726 กิโลเมตร นับเป็นท่อขนส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดและทันสมัยที่สุดของประเทศ และเป็นระบบท่อส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดในอาเซียน

สำหรับโครงการส่วนต่อขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 สระบุรี-อ่างทอง ถือเป็นก้าวสำคัญของ บริษัทฯ ในการพัฒนาระบบโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมันของประเทศให้ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกได้อย่างสมบูรณ์ สอดรับกับทิศทางและนโยบายของกระทรวงพลังงานที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งพลังงานของประเทศ

ขณะที่คลังน้ำมันพิจิตรและคลังน้ำมันนครลำปาง ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักในด้านการเก็บสำรองน้ำมันของภาคเหนือ และเป็นจุดจ่ายน้ำมันที่สำคัญไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือสามารถรับน้ำมันจากโรงกลั่นภาคตะวันออกอีก 5 โรงกลั่น ลดความเหลื่อมล้ำของราคาน้ำมันระหว่างภาคเหนือและกรุงเทพมหานครรวมถึงปริมณฑล

ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งน้ำมันของประเทศ ให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ได้น้ำมันที่มีคุณภาพ สะอาด บริสุทธิ์ และมีการสูญเสียน้ำมันจากการขนส่งน้อยที่สุด ลดต้นทุนจากการขนส่งและการจัดเก็บน้ำมัน รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและการบริการ

รวมถึงช่วยลดปัญหาการจราจรและลดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการขับขี่ระยะไกล รวมถึงลดการปล่อยก๊าซาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมขานรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่สังคมคาร์บอนต่ำของไทยในอนาคต

อย่างไรก็ตามโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมัน สามารถรองรับความต้องการใช้น้ำมันของประเทศได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มบริษัท ตามพันธกิจขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ด้วยการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงด้านพลังงาน และความยั่งยืน พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันทางท่อ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ยกระดับการให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่า 50,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือคิดเป็นการปลูกต้นไม้ 5.2 ล้านต้น

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท บาฟส์ มุ่งมั่นและพร้อมมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ผ่านการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในระดับประเทศต่อไป

 

 

TAGS: #BAFS #ท่อน้ำมัน #สังคมคาร์บอนต่ำ