"เอเซีย พลัส" ปักหมุดผลงานปี 68 โต 10% มุ่งสู่ผู้นำหลักทรัพย์ในไทย

"เอเซีย พลัส" เผยแผนปี 68 ปักหมุดโตทั้งกลุ่ม 10% มุ่งสู่ผู้นำหลักทรัพย์ในไทย

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และประธานกรรมการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าผลงานทั้งกลุ่มเติบโต 10% ผ่าน 5 ธุรกิจหลัก ควบคู่กับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย

อีกทั้งธุรกิจ Wealth ตั้งเป้าหมายทางการเงินโต 11% และมีสินทรัพย์คงค้างของลูกค้าแตะ 115,000 ลบ.โต 16% ผ่านการออกโปรดักซ์ใหม่และขยายจำนวนผู้ออกหลักทรัพย์รายใหม่อย่างต่อเนื่อง

“ธุรกิจหลักทรัพย์ จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันให้มากยิ่งขึ้น หลังช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์บางรายต้องปิดตัวหรือควบรวมธุรกิจ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจไม่มีกำไรจากธุรกิจโดยตรง แต่มาจากธุรกิจเสริมเป็นหลัก ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงหลุด 1,300 จุด มาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาไม่มีธุรกิจเกิดใหม่เข้ามาในตลาด ส่วนใหญ่เป็น Old economy และ Old Invester ซึ่งหมดยุคลงในปัจจุบัน รวมทั้งผลประกอบการที่ออกมาไม่โตเท่าที่ควร ส่วนปัจจัยนอกประเทศมองว่า การปรับขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบทั่วโลก” ดร.ก้องเกียรติ กล่าวเพิ่มเติม

ขณะที่ ธปท.ประเมินเศรษฐกิจไทยปี พ.ศ. 2568 กำลังเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันจากภายนอกที่รุนแรงขึ้นและความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่สูงขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งทิศทางนโยบายการค้าโลก ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มองว่ารัฐบาลไทยพยายามเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มขึ้นของแรงสนับสนุนจากรายจ่ายภาครัฐ การขยายตัวของอุปสงค์ภาคเอกชน การท่องเที่ยวและบริโภคจ่อฟื้นตัวต่อเนื่อง และการส่งออกสินค้าที่ขยายตัว

โดยประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.9% ในปี 2568 ส่วนอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ทั้งนี้ ในปีนี้คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 1.1%

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในตลาดทั่วโลกปี 68 จะเป็นปีที่เผชิญกับความเสี่ยงใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาจากเรื่องของสงครามการค้ารอบใหม่ อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านอื่นๆ ตามมาได้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า ล้วนสร้างแรงกดดันต่อตลาดเงินและตลาดทุนมีความผันผวนรุนแรงมาก ทำให้มองว่าปีนี้จะเป็นปีที่การลงทุนในตลาดไหนๆ ก็จะยากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตลาดไทยตลาดต่างประเทศ

โดยในปี 2568 กลุ่มบริษัทเอเซีย พลัส ผู้นำกลุ่มธุรกิจการเงินครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การ ให้บริการด้านการจัดการด้านความมั่งคั่ง (Wealth Management) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองตรงต่อความต้องการ ของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยยึดหลักกลยุทธ์ที่บริษัทได้วางแผนพัฒนาและต่อยอดใน 5 ด้าน ได้แก่

1) Customer-Centric Approach เพื่อให้พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดยจะทำการแบ่งกลุ่มลูกค้า เพื่อใช้ในการจัดประเภทกลุ่มลูกค้าของบริษัท และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ให้เหมาะสมสำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม

2) Data ManagementInitialves การนำข้อมูลมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

3) Revenue Diversification การกระจายฐานรายได้ไปยังผลิตภัณฑ์การลงทุนที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาด โดยครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม สินทรัพย์ และภูมิศาสตร์

4) Digital Transformation Powered by Al มุ่งต่อยอดการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และยกระดับแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานรวมทั้งบริหารจัดการและรวบรวมข้อมูลคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมให้กับลูกค้า

5) Unskilling. Employees การเสริมสร้างความสามารถและพัฒนาทักษะของเจ้าหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนให้มีความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอให้กับลูกค้า พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัลใช้ปฏิบัติงานเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการให้บริการได้อย่างตรงเป้าหมายความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

สำหรับกลยุทธ์ทั้ง 5 ด้านนี้ จะช่วยในการต่อยอดการเป็นผู้นำด้านบริการ Wealth Management โดยปัจจุบันมีการจัดกลุ่ม Segment ออกมาจะทำให้สามารถโฟกัสกลุ่มลูกค้า High Net Worth ได้อย่างชัดเจน และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนให้ลูกค้าเลือกได้อย่างตรงกลุ่มด้วยการ Customize แผนการลงทุนเฉพาะบุคคล ขณะที่บริษัทฯ เองมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เลือกลงทุนหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเภทหลักทรัพย์ต่างๆ ในตลาดทุน กองทุนรวม Structure Note หุ้นกู้ พันธบัตร การลงทุนนอกตลาด อาทิ Private Equity, Hedge Fund, Start Up รวมไปถึง ประกันภัย

ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการอบรมเพิ่มทักษะด้านการบริหารความมั่งคั่ง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การลงทุนแบบ Cross Selling ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีศักยภาพในการให้คำแนะนำที่ดีและ แม่นยำ แก่ลูกค้าที่ต้องการสร้างผลตอบแทนเติบโตในระยะยาว ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมในแต่ละ Segment

“เอเซีย พลัส ได้ทำการปรับตัวขยายธุรกิจเพื่อก้าวสู่ผู้ให้บริการ Wealth Management มาอย่างต่อเนื่องตลอด 17 ปี เพราะ เราเล็งเห็นความสำคัญของการกระจายรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแปรที่บ่งชี้ถึงความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตที่แข็งแกร่งสะท้อนได้จากผลดำเนินงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้ที่มีความสมดุล และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ.2567 เป็นอีกปีที่ผลดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเอเซีย พลัส ยังเติบโตแข็งแกร่ง และในปี พ.ศ. 2568 บริษัทมั่นใจว่ากลยุทธ์ 5 ด้าน จะขับเคลื่อนกลุ่มเอเซีย พลัส เติบโตได้ดีต่อเนื่อง” ดร.ก้องเกียรติกล่าว

TAGS: #บล.เอเซียพลัส #การลงทุน