โบรกชี้ธุรกิจรพ.เอกชนไทยปี 68 โตต่อ รับยอดผู้ป่วยต่างชาติพุ่ง ชู Mega trends ด้านสุขภาพมาแรง
นายปุญญภพ ตันติปิฎก นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของไทยปี 2025 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ขยายตัวได้ดีและกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยที่มีแนวโน้มเติบโตปานกลาง อีกทั้ง ยังได้รับแรงสนับสนุนจาก Mega trends ด้านสุขภาพ โดยรายได้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของไทยคาดว่าจะเติบโต 5.6%YOY จากรายได้กลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นที่ 7.6%YOY หลังจากปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของคูเวตจากการเปลี่ยนนโยบายการส่งผู้ป่วยไปรักษาต่างประเทศของรัฐบาล อีกทั้ง ไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ทั่วโลก แต่ยังมีความเสี่ยงที่อาจเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
ส่วนรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคาดว่าจะเติบโตปานกลางที่ 5.2%YOY ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปี 2024 จากผลกระทบทางเศรษฐกิจไทยที่เติบโตในอัตราที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก และส่งผลต่อเนื่องมายังกำลังซื้อและการใช้จ่ายด้านสุขภาพของชาวไทย อย่างไรก็ดี แนวโน้มการจ่ายเงินคงที่สำหรับกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงของสำนักงานประกันสังคม และการทำประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยเสริมการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย
นอกจากนี้ Mega trends ด้านสุขภาพจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งประกอบด้วย
1. การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society) ของไทยในปี 2024 จากสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป เท่ากับ 14% ของประชากรทั้งหมดและคาดว่าในปี 2033 จะเป็นปีที่ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-aged society) จากสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 20%
2. การเติบโตของคนชั้นกลางและกำลังซื้อที่สูงขึ้น จากสัดส่วนจำนวนครัวเรือนยากจนของไทยที่ปรับลดลงและค่าเฉลี่ยรายได้ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น
3. แนวโน้มการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น (NCDs) จากสถิติผู้เสียชีวิตด้วยโรค NCDs ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
4. พฤติกรรมผู้บริโภคมีแนวโน้มใส่ใจสุขภาพมากขึ้นหลังวิกฤตโควิด-19 และ
5. การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ จากจุดแข็งของไทยในด้านราคา การบริการ และการเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
เทรนด์ที่น่าสนใจของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ได้แก่ 1. เทรนด์สุขภาพและเวลเนส จากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น 2. เทรนด์เทคโนโลยีด้านการแพทย์ (Health Tech) ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและยกระดับการดูแลผู้ป่วย และ 3. เทรนด์ ESG ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลจะต้องปรับตัวเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง ควรเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะมีผลต่อสุขภาพของประชาชน สำหรับภาวะการแข่งขันในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนคาดว่าจะรุนแรงมากขึ้น จากหลายเครือโรงพยาบาลที่วางแผน/เตรียมเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่หลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดควบคู่กับการขยายจำนวนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเดิมพร้อมทั้งยังมีแนวทางพัฒนาธุรกิจการแพทย์ในทิศทางที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย
3 ประเด็นหลักที่ท้าทายธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในปี 2025 และในระยะถัดไป ได้แก่ พฤติกรรมผู้บริโภคที่คาดหวังในคุณภาพการรักษาและการบริการที่คุ้มค่ามากขึ้น, การลงทุนด้าน Health Tech ซึ่งค่อนข้างจำเป็น แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด การลงทุนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในการเบิกจ่ายตามสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนต้องเตรียมพร้อมและกระจายความเสี่ยงไม่ให้พึ่งพาฐานลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป