MEDEZE ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ทะลุ 1,000 ลบ. ทำผลงาน New High ต่อเนื่อง พร้อมทุ่ม 552 ลบ.ซื้อที่ดินผุดธนาคารเซลล์แห่งใหม่ รองรับดีมานด์ขยายตัวหลังภาครัฐผลักดัน Stem Cell สู่ ATMPs
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมตีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลงานปี 2568 ทำ New Hight รายได้เติบโต 25-30% หรือทะลุ 1,000 ล้านบาท จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 897.22 ล้านบาท โดยหลักมาจากธุรกิจให้บริการตรวจ วิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิดในประเทศ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดบริษัทขยายขนาดทีมขาย ,พันธมิตรทางการค้าที่เป็นตัวแทนให้บริการ หรือ Dealer ,ตัวแทนจำหน่าย หรือ Agent รวมถึงกลุ่มบริษัทมีเครือข่ายสถานพยาบาล และพันธมิตรที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้น ทําให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ได้มากขึ้น
อีกทั้งธุรกิจใหม่ MEDEZE Hair Renaissance ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย บริษัทตั้งเป้าให้บริการลูกค้าในปี 2568 แตะ 500 เคส และเพิ่มเป็น 5,000 เคส ภายในปี 2573 ส่วนจากธุรกิจที่ปรึกษาด้านธุรกิจจากต่างประเทศ และรายได้จากค่าสิทธิในการใช้แบรนด์สินค้า "MEDEZE” จากตัวแทนให้บริการในต่างประเทศยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในประเทศฟิลิปปินส์บริษัทยังคงเดินหน้าจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Cell Banking Biotechnology ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องปฏิบัติการ ด้านตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในฟิลิปปินส์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต
สำหรับแผนในการขยายธุรกิจในระยะยาว บริษัทเตรียมสร้างธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งใหม่ โดยได้ซื้อที่ดิน 30 ไร่ มูลค่า 552 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพและรองรับการเติบโตของตลาด Stem Cell ซึ่งคาดว่าฐานลูกค้าชาวไทย และต่างชาติจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องภาครัฐให้การสนับสนุนธุรกิจเซลล์ต้นกำเนิดอย่างเต็มที่ และจัดให้อยู่ในกลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หรือ ATMPS
ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นในการพัฒนาระบบ AI อัจฉริยะ "MEDEZE Plus Auto Matching Software” เพื่อใช้ วิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและพฤติกรรมของนักลงทุน ด้วยงบประมาณ 12 ล้านบาท โดยการพัฒนาระบบ AI นี้ จะช่วยให้ MEDEZE สามารถทำตลาดได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนักลงทุนที่มีศักยภาพ
