BC แรงต่อ! ยอดจองโรงแรมทะลัก จ่อปิดการขายโครงการ Summer Point ช่วง Q1/68 นี้
นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในแลนด์มาร์คเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวยังเติบโตดี ในช่วงแรกของปีประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐต่อตลาดท่องเที่ยวโลก เช่น มาตรการ “Ease of Traveling” ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการเดินทาง และการยกเว้นวีซ่าของนักท่องเที่ยวหลายประเทศ อาทิ มาเลเซียและจีน มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งการเข้าพักระยะสั้นและระยะยาว ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโครงการโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ของบริษัทมีอัตราการเข้าพักในระดับสูง ตอกย้ำศักยภาพของ BC ในตลาดโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน แผนการเดินหน้าระดมทุนผ่าน ICO โดยใช้โครงการซัมเมอร์พอยท์ (Summer Point) เป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ในชื่อ “Summer Point Token” โครงการมิกซ์ยูสสุดฮอตบนถนนสุขุมวิท ติดสถานี BTS พระโขนง โครงการนี้ได้รับกระแสตอบรับดีอย่างดีเยี่ยม ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของโครงการ ในไตรมาส 4/2567มีการเติบโตของอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 96% ของพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้ง EBITDA ที่ปรับตัวขึ้นเป็น 61.9% สะท้องถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน โดยมี บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X ภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเค็นดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) คาดว่า ธุรกรรมของโครงการซัมเมอร์พอยท์จะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ และจะช่วยเสริมสภาพคล่อง BC เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ต่อไป
โดย BC ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในโมเดลธุรกิจ BOS เพื่อสะท้อนถึงศักยภาพในการขยายธุรกิจและการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง ปัจจุบัน BC เตรียมแผนเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้ชื่อ “Journeyhub Bangkok Sukhumvit 26” ในไตรมาส 1/2568
และมีโครงการที่กำลังอยู่ในแผนพัฒนาต่อเนื่องในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ โครงการโรงแรมกมลา 1ภายใต้ เมอเวนพิค แบรนด์ จำนวน 197 ห้อง และกมลา 2 โรงแรมระดับ ลักซูรี่ รีสอร์ทจำนวน 200 ห้อง ที่จังหวัดภูเก็ตบนพื้นที่รวม 9 ไร่ และโครงการที่สุขุมวิท 5 จำนวน 194 ห้อง เป็นต้น
สำหรับโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) มิกซ์ยูสอาคารสำนักงานและพื้นที่เชิงพาณิชย์ย่านเจริญกรุงเปิดตัวโครงการไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีได้ในปีนี้
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา BC สามารถพลิกกลับเทิร์นอะราวด์ได้ตามนัด กำไรพุ่งกว่า 226 ล้านบาท อยู่ที่ 32.2 ล้านบาท ด้านรายได้รวมอยู่ที่ 632.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 58.5%จากความสำเร็จดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.052 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% dividend yield จากราคาหุ้นปัจจุบัน โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568เพื่อตอกย้ำภาพรวมธุรกิจและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีความมั่นคง
อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จากเดิม 629,237,982 บาท เป็น 992,551,622 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 363,313,640 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งเป็น จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ภายใต้โครงการ BC-ESOP 2025 รวมทั้ง รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 หรือ BC-W3 และการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ BC-W4
นอกจากนี้ การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวนไม่เกิน 171,656,820 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับธุรกิจ และลงทุนเพิ่มเติมในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินการอยู่ปัจจุบันหรือลงทุนในบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท ในการเข้าทำธุรกรรมรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท บีคิว ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งรวมถึงที่ดินบนถนนสุขุมวิท 24 เพื่อขยายพื้นที่พัฒนาโครงการของบริษัท โดยธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่ารวม 709.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการโรงแรมระดับพรีเมียมแห่งใหม่ในอนาคต ซึ่งแผนการเพิ่มทุนนี้มุ่งเน้นการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งต้องรอผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้