PROSPECT REIT ลั่น! ไม่กระทบภาษีทรัมป์ เดินหน้าลงทุนทรัพย์สินที่ดินเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ชูพื้นที่ Free Zone ใหญ่สุดในย่านบางนา-ตราด คาดผลตอบแทนปีแรกเพิ่มขึ้นเป็น 0.87 บาทต่อหน่วย จองซื้อ 19-23 พ.ค. นี้

นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนหลักและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของ PROSPECT REIT เปิดเผยว่า  ตั้งเป้าการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า จากการเข้าลงทุนโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนทั้ง 3 โครงการในครั้งนี้จะช่วยหนุนมูลค่าทรัพย์สินฯ (AUM) แตะ 8,700 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 5,300 ล้านบาท

โดยกองทรัสต์ปักหมุดลงทุนโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนทั้ง 3 โครงการ พื้นที่รวม  221,678 ตารางเมตร ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของภาคอุสาหกรรมและโลจิสติกส์ พร้อมโชว์พื้นที่ Free Zone ย่านบางนา-ตราด รองรับดีมานด์การเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่องจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศจากหลากหลายอุตสาหกรรมในอนาคต โดยบางกอกฟรีเทรดโซนทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ 

1. โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 ถนนบางนา-ตราด กม.23 ซึ่งลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงที่ดินและสิทธิการเช่าอาคาร เป็นระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี มีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 158,315 ตารางเมตร 

2. โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 ถนนเทพารักษ์ ลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงที่ดินเป็นระยะเวลาไม่เกิน 26 ปี และลงทุนในกรรมสิทธิ์อาคารมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 12,481 ตารางเมตร 

3. โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารของโครงการ มีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 50,882 ตารางเมตร 

ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ทรัพย์สินใหม่ใน 3 โครงการ มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในระดับสูงที่ 96.9% 96.9% และ 100.0% ตามลำดับ โดยการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) เป็น 31.9% จากปัจจุบัน 29.9% ของมูลค่าประเมินทรัพย์สิน ซึ่งจะทำให้กระแสรายได้ของกองทรัสต์มีความมั่นคงยิ่งขึ้น พร้อมประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนปีแรกของ PROSPECT REIT เพิ่มขึ้นจาก 0.72 บาทต่อหน่วย เป็น 0.87 บาทต่อหน่วย ถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรม

นอกจากนี้บริษัทฯ มองปัจจัยบวกมาจากการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังภูมิภาคอาเซียน หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราที่สูงกว่าไทย รวมถึงโครงการฟรีเทรดโซน 3 มีพื้นที่บางส่วนเป็นเขตปลอดอากร หรือ Free Zone ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าและขาออก ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิต เป็นต้น

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า จากกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการภาษีใหม่กับหลายประเทศทั่วโลกที่เกินดุลการค้ารวมถึงไทยนั้น ปัจจุบัน PROSPECT REIT ยังไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าว เนื่องจากผู้เช่าที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มีสัดส่วนน้อยกว่า 5% 

ขณะที่ผู้เช่าส่วนใหญ่ประเมินว่ามาตรการภาษีดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบระยะสั้น จึงปรับตัวมองหาตลาดอื่นควบคู่กัน และยังไม่มีแผนย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น เนื่องจากหลายประเทศในอาเซียนก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี และการย้ายฐานการผลิตต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูง ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้ กองทรัสต์มีอัตราการต่อสัญญาเช่าสูงถึง 100% และอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับสูง

อีกทั้งมองภาพรวมความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าสำเร็จรูปในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและจังหวัดสมุทรปราการอยู่ในระดับสูง โดยปี 2566 ภาพรวมมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 91% และสิ้นปี 2567 มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 96.8% สะท้อนถึงศักยภาพของทรัพย์สินที่อยู่ในระดับสูง พร้อมตั้งเป้ามีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการแตะ 2 ล้านตารางเมตร ภายในปี 2571 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1 ล้านตารางเมตร 

ทั้งนี้ในปี 2567 ได้จ่ายเงินออกให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในรูปแบบประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนแล้วรวมกว่า 0.8560 บาทต่อหน่วย คิดเป็น Annualized Yield ที่ 10.1% ต่อปี เมื่อเทียบกับราคาหน่วยทรัสต์ที่ 8.5 บาท ณ สิ้นปี 2567 ถือเป็นอันดับต้น ๆ ของกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรม

นายคมกฤต รักษากุลเกียรติ หัวหน้าวาณิชธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ PROSPECT REIT มีจุดเด่นด้านทรัพย์สินและทำเลที่ตั้งโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 ,2 และ 3 ซึ่งมีศักยภาพสูงและมีความต้องการจากผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด PROSPECT REIT ได้รับอนุมัติเสนอขายหน่วยทรัสต์จากสำนักงาน ก.ล.ต. และแบบไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว โดยการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้มีมูลค่ารวมไม่เกิน 3,350 ล้านบาท แบ่งเป็นแหล่งเงินทุนจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 310 ล้านหน่วย และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินไม่เกิน 1,450 ล้านบาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XR (Exclude Right) ในวันที่ 28 เมษายน 2568  เตรียมเปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์แก่ผู้ถือหน่วยเดิม (RO) และนักลงทุนทั่วไปในวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2568 นี้ ซึ่งจะประกาศภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายสูงสุดจะไม่เกิน 8.2 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิจองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.6648 หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม โดยราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) คาดว่าจะประกาศภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่สำรวจความต้องการจองซื้อจากนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) โดยกรณีราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุด จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อภายใน 5-10 วันทำการนับจากวันที่สิ้นสุดการเปิดจองซื้อและคาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนมิถุนายนนี้

ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://www.tiscosec.com หรือ สำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย