MAJOR ไตรมาส2/66 นิวไฮ หลังหนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวเข้าฉายเพียบ พร้อมจ่อบุ๊กกำไรพิเศษ 350 ล้านบาท จากการขายหุ้น MPIC ให้ “ขันเงิน ไทเทเนียม”
นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจผลประกอบการไตรมาส 2/2566 จะดีที่สุดเมื่อเทียบกับทุกไตรมาสในปีนี้ เนื่องจากไตรมาสนี้มีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายในโรงภาพยนต์หลายเรื่อง
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2567 จะสามารถทำได้เทียบเท่ากับปี 2562 ที่มีรายได้ 10,800 ล้านบาทเนื่องจากมีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายจำนวนมาก และเชื่อว่าจะมียอดขายตั๋วหนังอยู่ที่ 40 ล้านใบ (เท่าปี 2562) จากปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 85% ของ 40 ล้านใบ รวมทั้งมียอดขายป๊อปคอร์นเข้ามาสนับสนุน
ส่วนปี 2566 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมปี 2566 ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยรายได้จะมาจาก การขายตั๋วหนัง50% และขายป๊อปคอร์น 50% รวมถึงบริษัทยังมีแผนขยายจอ Screen ใหม่เพิ่มอีก 40-50 จอ ในโรงหนังอีก 10 สาขา ซึ่งมีทั้งในกรุงเทพฯแบะปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดโดยจะเน้นหัวเมืองรอง
ส่วนยอดบัตรสมาชิกในปีนี้บริษัทตั้งเป้าแตะที่ 500,000 ราย โดยปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว 300,000 ราย
“ปีนี้เราจะทำให้ดีที่สุด แต่เรามีอุปสรรคอยู่คือเรื่องจำนวนหนังไม่เท่ากับปี 2019 แต่ในปีหน้าเรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะสามารถกลับมาเทียบเท่าปี 2019 ได้แบบ 100%” นรุตม์ กล่าว
และจากการโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก MAJOR เรื่องการขายหุ้น MPIC ให้แก่ “ขันเงิน ไทเทเนียม” โดยรายการดังกล่าวได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 และระหว่างนี้บริษัทอยู่ระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้าง และคาดว่าจะรับรู้รายการพิเศษและกำไรภายในไตรมาส 2/2566