บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) คาด SET ขึ้นมาทรงตัวแถวกรอบบนบริเวณ 1540 จุด แต่วอลุ่มเบาบาง ทำให้มองดัชนียังมี Upside ในระยะสั้นที่จำกัด
โดยมีแนวต้านที่ 1546 จุด ซึ่งหากไม่ผ่าน คาดว่าดัชนีจะกลับมาแกว่งในกรอบเดิมระหว่าง 1530-1542 จุด ส่วนกรณีขึ้นทะลุ 1546 จุด เป็นสัญญาณบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1555 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุนมอง SET ยังเคลื่อนไหวผันผวนและแกว่งตัวในกรอบ โดยแม้การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐจะได้ข้อสรุป ซึ่งเป็นSentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย และการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. มองจะมีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25 pbs ตามตลาดคาด
แต่ประเมิน SETจะยังคงมี Upside จำกัด เนื่องจากตลาดยังคงจับตาเสถียรภาพในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย สถานการณ์การระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ในจีน และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในยุโรป ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้“Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจาก MOU 23 ข้อที่ 8 พรรคการเมืองร่วมลงนามเลือก BBL KTB KBANK HMPRO GLOBAL BCH CHG SPRC STANLY AH ONEE HTC TNP
2. หุ้นที่ INVX Research มีการปรับเพิ่ม Rating และ/หรือ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเลือก KKP BJC OSP
3. สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ซึ่งต้องการเก็งกำไรระยะสั้นในประเด็นการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐได้ข้อสรุป แนะนำ DELTA PTTEP BCP
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับหุ้นที่มีความเสี่ยงหรือปัจจัยลบกดดันราคาหุ้น ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัย จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU CENTEL) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSHSIRI QH AP) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE)
3) หุ้นที่ราคาขึ้นมาสูงกว่าโควิด-19และเราแนะนำ Underperform (AAV SAWAD MST NRF)