บล.ทรีนีตี้พาส่อง 5 หุ้นค้าปลีกตัวไหน ? ไร้ผลกระทบนโยบายขึ้นค่าแรง

บล.ทรีนีตี้พาส่อง 5 หุ้นค้าปลีกตัวไหน ? ไร้ผลกระทบนโยบายขึ้นค่าแรง
“ทรีนีตี้” มองหุ้นเดือนมิ.ย. Sideways ช่วงครึ่งเดือนแรกมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งเดือนหลัง แนะลงทุน 11 หุ้น กลุ่มธนาคาร Consumer finance และกลุ่มบริโภค

 

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนมิถุนายน 2566 ว่า สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนมิถุนายน คาดว่าจะแกว่งตัว Sideways โดยมองกรอบแนวรับ 2 ระดับได้แก่บริเวณ 1500 จุดและ 1470 จุด ซึ่งบริเวณ 1470 จุดนั้นมองเป็นแนวรับสำคัญเนื่องจากเป็นระดับที่เทียบเคียงเท่ากับ Forward PBV 1.4x ซึ่งในอดีตมักเป็นระดับที่ดัชนี SET ค่อนข้างมีเสถียรภาพ

ในทางกลับกัน มองแนวต้าน 2 ระดับที่บริเวณ 1570 จุดและ 1600 จุดตามลำดับ โดยระดับ 1600 จุดเป็นระดับที่ไม่น่าผ่าน เนื่องจากเป็นระดับดัชนีที่เหมาะสมในกรณีดีสุดของเรา (Bull case) อิง Forward PE ที่ 14.2x และระดับ 2024E EPS ที่ 113 บาท                                           

ณัฐชาต กล่าวว่า  ประเมินภาพดัชนีหุ้นในช่วงครึ่งเดือนแรกมีโอกาสดีกว่าครึ่งเดือนหลัง จากการที่ในช่วงแรกนักลงทุนน่าจะเริ่ม Price in ความเป็นไปได้ที่ Fed จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน

ซึ่งเรายังคงมีความเห็นเช่นเดิมว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้น จากทิศทางตัวเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงมาพอสมควรในช่วงหลัง และการออกมาส่งสัญญาณ Dovish ของกรรมการ Fed ต่างๆที่เด่นชัดมากขึ้น  แต่หลังจากการประชุม FOMC ผ่านพ้นไปแล้ว อาจเห็นแรงขายทำกำไรหรือการ Sell on fact  เกิดขึ้นได้

ในเชิงกลยุทธ์  แนะนำใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้าน-แนวรับที่กำหนดไว้ โดยมีกลุ่มหุ้นแนะนำประจำเดือนนี้ ได้แก่ 1. กลุ่มธนาคารที่น่าจะยังได้ประโยชน์จากวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ได้แก่  BBL, KBANK, SCB  

2. กลุ่ม Consumer finance ที่ได้ประโยชน์จากแนวนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มคนฐานรากและความสามารถในการชำระหนี้ปรับสูงขึ้น ได้แก่ SAWAD, MTC, TIDLOR  

3. กลุ่มที่อิงกับภาคการบริโภคที่ยังเห็นการขับเคลื่อนที่ดี และยังได้ประโยชน์สุทธิจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ได้แก่ BJC, MAKRO, CRC, GLOBAL, DOHOME

 

TAGS: #BJC #MAKRO #CRC #GLOBAL #DOHOME