ส่องผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ของ 3 หุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนจากแรงกดดันสถานการณ์การเมือง

ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยสำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ของหุ้นค้าปลีกกลุ่มวัสดุก่อสร้าง วันนี้ The Better จะพาไปส่องดูว่าแต่ละบริษัทจะมีผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 นี้มีแนวโน้มขยายตัวจากการบริโภคของภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงดูสดใส แต่ในช่วงปลายไตรมาส 2 ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางด้านการเมือง ในเรื่องความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาล ที่อาจส่งผลให้ลูกค้าบางกลุ่ม อาจมีการชะลอ การซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้าง

1. บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO 

สำหรับไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,619.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.80 ล้านบาท หรือ 6.57% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้รวมที่ทำได้ 18,902.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1,595.12 ล้านบาท หรือ 9.22% 

ขณะที่ กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,679.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484.43 ล้านบาท หรือ 11.55% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นจาก 25.71% ในปีก่อนมาอยู่ที่ 26.31% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และการได้รับส่วนลด จากคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงขึ้นตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ ยังคงเผชิญกับความกดดันในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อาทิ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการเตรียมเปิดสาขาใหม่ จำนวน 3 สาขา จากการอบรมพนักงานล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อนปฏิบัติงานจริง 

2. บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL

บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 2/2566 เท่ากับ 705.06 ล้านบาท ลดลง 326.70 ล้านบาท หรือลดลง31.66% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2565 และหากเปรียบเทียบกับยอดขายคิดเป็น 8.29% ของยอดขายโดยมีสาเหตุจาก รายได้จากการขายสำหรับไตรมาส2/2566 เท่ากับ 8,503.26 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี2565 จำนวน 716.28 ล้านบาท หรือลดลง 7.77% 

นอกจากนี้ รายได้อื่นสำหรับไตรมาส2/2566 เท่ากับ 179.98 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2565 จำนวน19.75 ล้านบาท หรือ ลดลง 9.89% และ สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เท่ากับ 350.43 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2565 จำนวน 20.75 ล้านบาท หรือลดลง 5.59% เนื่องจากรายได้บริหารคลังสินค้าและรายได้ส่งเสริมการขายที่ได้รับจากคู่ค้าลดลง ตามนโยบายการบริหารจัดการสินค้า

3. บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME  

บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 เท่ากับ 39.39 ล้านบาท ลดลง 87.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 315.38 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมไตรมาส 2/2566 เท่ากับ 8,049.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

สำหรับกำไรสุทธิที่ปรับตัวลดลงเนื่องจาก ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการ เพิ่มขึ้นของสาขาใหม่ เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน เป็นต้น