QTC ประกาศเดินเกมธุรกิจ สู่ Superior Long-term Performance ผ่านกลยุทธ์การขับเคลื่อน 3 ธุรกิจ “หม้อแปลงไฟฟ้า-โซลาร์เซลล์-EV Charging” พร้อมปักธงรายได้ปีนี้โต 10-20%
พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตที่ประมาณ 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,237 ล้านบาท โดยกลยุทธ์หลักยังคงเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก ภายใต้แนวคิด “Superior Long-term Performance” หรือการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1. Core Business คือการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนออกเดินสายโรดโชว์ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นการรับรู้ให้กับลูกค้า
2. ธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar, Trina Solar, การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter ซึ่งปีนี้จะมีการทำการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการให้บริการที่ครบวงจร เนื่องจากเล็งเห็นว่าผู้ประกอบการขนาดกลางให้ความสำคัญในการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพิ่มขึ้น
3. ธุรกิจ future business (ธุรกิจในอนาคต) คือธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่บริษัทฯ ได้เริ่มลงทุน โดยปัจจุบันมีการติดตั้งสถานีชาร์จ จำนวน 2 แห่ง และอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่ม นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังมองหาธุรกิจอื่นๆ ด้านพลังงานทดแทนเพิ่ม เพื่อเข้ามาเสริมพอร์ตสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าในปี2566 มีทิศทางที่สดใส ด้วยผู้ประกอบการในกลุ่ม FDI ที่กลับมาลงทุนในประเทศไทยและภาครัฐให้การสนับสนุนการลงทุนในด้านพลังงานสะอาดมากขึ้นด้วย ปัจจุบัน บริษัทฯเป็นผู้ผลิตหม้อแปลง Super Low Loss ซึ่งมีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน จาก No Load Loss ได้สูงสุดถึง 80% และได้รับการยอมรับจากองค์กรในประเทศ และต่างประเทศ จึงเป็นปัจจัยผลักดันให้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ธุรกิจโซลาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ธุรกิจเติบโต คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทจึงเชื่อว่าธุรกิจโซลาร์จะเป็นตัวขับเคลื่อน QTC ในปีต่อๆไป
นอกจากนี้ บริษัทฯได้วางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ภายใน 4 ปี (2566-2569) ที่ระดับเกิน 2,000 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจโซลาร์ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า 50:50 ซึ่งธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ายังคงเติบโตที่ประมาณ 20-30%
และจากการปรับกลยุทธ์รองรับการเติบโตของธุรกิจแบบเชิงรุกข้างต้นนั้น เชื่อว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จากธุรกิจดังกล่าวจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ระดับ 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 30% และธุรกิจการจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าจะอยู่ที่ระดับ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ขณะที่ธุรกิจ EV Charging ยังคงต้องใช้เวลาทำตลาดตามปริมาณของจำนวนรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในระยะยาว