SAV ผู้ให้บริการวิทยุการบินรายแรกของตลาดฯ เคาะราคาไอพีโอ 19 บาทต่อหุ้น ชูจุดแข็งธุรกิจเติบโตสูงพร้อมการท่องเที่ยว สัมปทานยาวอีก 28 ปี พร้อมเตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.75 บาท/หุ้น หลังเข้าเทรด
ธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่าบริษัทฯเป็นผู้ให้บริการบริหารจัดการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวในน่านฟ้ากัมพูชา ประกอบธุรกิจภายใต้สัญญาสัมปทานระยะยาว มีอายุสัมปทานอีกกว่า 28 ปี ภายใต้ราคาและต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ที่ชัดเจน โดย SAV มีโอกาสการเติบโตสูงจากการอยู่ในศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูง
บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีจำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriter) พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 8 ราย
“ บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อระดมทุนรองรับการขยายธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ซึ่ง SAV มีจุดแข็งด้านศักยภาพธุรกิจแกร่ง ไร้คู่แข่ง เป็นผู้ให้บริการวิทยุการบินแห่งเดียวในกัมพูชา พร้อมเติบโตรับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตสูง นายธีระชัยกล่าว
ด้านนายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่า SAV เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกหรือ IPO โดยการเสนอขายหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 166,000,000 หุ้น คิดเป็น 25.94% ของหุ้นสามัญทั้งหมดซึ่งมีจำนวน 640,000,000 หุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขาย 19 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมคิดเป็นส่วนลดประมาณ 25-30% จากราคาเหมาะสมเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ให้ไว้
อีกทั้ง SAV มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ และล่าสุด คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแผนการจ่ายเงินระหว่างกาลในอัตรา 0.75 บาทต่อหุ้น หลังจากหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้น SAV มีนักลงทุนสถาบันจำนวนมากแสดงความต้องการขอจองซื้อ โดยคาดว่าจะมีการจัดสรรหุ้นไอพีโอของ SAV ให้นักลงทุนสถาบันประมาณ 50% ของจำนวนหุ้นไอพีโอทั้งหมด
หุ้นสามัญที่เสนอขายจำนวน 166,000,000 หุ้น (มีมูลค่าที่ตราไว้ เท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น) คิดเป็นไม่เกินร้อยละ25.94 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในครั้งนี้ โดยแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 64,000,000 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมจำนวน 102,000,000 หุ้น
และเตรียมเปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัท บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2566 และสำหรับนักลงทุนรายย่อยสามารถจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่15 และ 18-20 กันยายน 2566 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ ภายในปลายเดือนนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SAV” โดยคาดว่าจะเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปลายเดือนกันยายน นี้