ปตท.เผยปี’65 ยังแข็งแกร่งท่ามกลางพลังงานผันผวน เผชิญต้นทุนก๊าซฯพุ่ง ปิโตรเคมีขาลง โดยยังมีกำไร 9.1 หมื่นล้าน ชี้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจสำรวจ ยอดขายเพิ่มตามภาวะเศรษฐกิจ
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของปตท.และบริษัทย่อยที่มีกำไรสุทธิในปี 2565 จำนวน 91,175 ล้านบาท (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 3.6%) ลดลงจำนวน 17,188 ล้านบาท หรือ15.9% จากปีก่อน
ทั้งนี้กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจาก ธุรกิจสำรวจและผลิตที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นจากราคาพลังงานในตลาดโลก และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลงจากต้นทุนก๊าซฯที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก จากการนำเข้า Spot LNG เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซในประเทศ และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลการดำเนินงานลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปีที่ราคาปิโตรเคมีปรับลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
รวมถึงในปี 2565 ต้นทุนทางการเงิน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ และ ผลขาดทุนจากการรับรู้รายการขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำสุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2564
สำหรับกำไรสุทธิจำนวน 91,175 ล้านบาท มาจากผลการดำเนินงานของ ปตท. คิดเป็น 17% ซึ่งลดลงจากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ที่มีต้นทุนราคาค่าเนื้อก๊าซฯ ปรับสูงขึ้นมาก
ขณะที่อีก 83% มาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 51% ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน และบริษัทย่อยอื่นๆ 23% กลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก 8% และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 1%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้เข้ารัฐรวมจำนวน 86,395 ล้านบาท ซึ่งรวม เงินปันผล ภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท. และภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทในเครือ
นอกจากนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. มีส่วนช่วยเหลือลดต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมดูแลสังคมจัดตั้งโครงการลมหายใจเดียวกัน สนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมดำเนินโครงการลมหายใจเพื่อน้อง ช่วยเหลือเยาวชนกว่า 60,000 คน ที่เสี่ยงต่อการหลุดจากระบบการศึกษา
อรรถพล กล่าวว่า ปตท. ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามพันธกิจหลักในการจัดหาและสำรองพลังงานให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมได้เข้าถึงพลังงานอย่างทั่วถึง ในราคาที่เป็นธรรม พร้อมกับการแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่และธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนต่อไป
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 2 บาท ซึ่งได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.30 บาท เมื่อตุลาคม 2565 คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท โดยกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกองทุนวายุภักษ์รับปันผล 36,144 ล้านบาท