บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ผันผวนตามต่างประเทศ ให้กรอบดัชนี 1,620-1,680 จุด แนะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์การส่งเสริม BOI ลงทุนชิ้นส่วน EV 

วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก โดยทางโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ประกอบกับปัจจัยในประเทศสภาพัฒน์รายงาน GDP ไทยไตรมาส 45/2565 ขยายตัว 1.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ +3.5% โดยทั้งปี 65 GDP +2.6% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด +3.2%

ขณะที่สถานการณ์ด้านการเมืองในภูมิภาคยังตึงเครียด ล่าสุด กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 3 ลูกตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น และทางการยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีทั่วยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) และโรงกลั่นน้ำมันเครเมนชุกซึ่งเป็นโรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดถูกโจมตีไปด้วย แต่ยังไม่ทราบความเสียหายจึงให้กรอบดัชนีที่ 1,620-1,680 จุด

ด้านปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ  ในสัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และวันที่ 28 ก.พ. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ (21 ก.พ.) ทางอียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.พ. สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.พ. ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.

และวันที่ 22 ก.พ. คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. (เช้าวันที่ 23 ก.พ.) และวันที่ 23 ก.พ. อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. เช่นเดียวกับสหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 4Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในการสนับสนุนให้มีประกอบการลงทุนชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (EV)  ได้แก่ EA, GPSC, BCP, DELTA, PIMO และ FPI