“โรคผิวหนังที่เกิดจากความเครียดและจิตใจ” เมื่อเราเครียด ผิวเราก็เครียดตามโดยจะแสดงอาการเช่นโรคผิวหนัง สิวขึ้น ผิวมัน ซึ่งถือว่าเป็นโรคทางจิตวิทยาผิวหนัง
อาการ "ผิวเครียด" ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในหมู่คนทุกวัย และกำลังเป็นที่แพร่หลายขณะนี้ ข้อมูลจากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย หรือ DST บอกว่า เมื่อเรารู้สึกเครียด ทำงานหนักอ่อนล้า ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) ส่งผลให้ต่อมไขมันใต้ผิวทำงานผิดปกติ
เกิดอาการ ผิวมันขึ้น เป็นสิวง่ายผิวมันขึ้น เกิดสิวง่าย สิวอักเสบ สิวผื่นแพ้ และหายยากขึ้นด้วย ซึ่งความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังหลายชนิดได้ง่าย เช่น เริม สะเก็ดเงิน งูสวัด ด่างขาว
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แนะวิธีการสังเกตอาการเมื่อผิวเริ่มเครียดคือ ผิวจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง เป็นขุยที่หน้าตา หัวคิ้ว ข้างจมูก หลังหู ไรผม หรือที่เรารู้จักในชื่อ "เซ็บเดิร์ม" และเกิดผื่นคล้ายลมพิษขึ้นตอนเย็นหลังเลิกงาน หลังออกกำลังกาย หรือช่วงมีระดู มีผื่นตามตัว มักขึ้นในช่วงนอนดึก เครียดจัด จะเป็นแล้วก็หายไปได้เอง แต่สักระยะจะกลับมาเป็นใหม่
ในส่วนของการรักษาอาการผิวเครียด สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าทำงานอย่างหักโหมและพยายามกำจัดความเครียดให้หมดไป พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่าปล่อยให้ร่างกายล้า ควรฝึกสมาธิทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมงเพื่อขับไล่ความเครียด และทำให้ร่างกายได้หลั่งสารความสุข หรือ เอ็นโดฟิน ซึ่งสารนี้มีฤทธิ์คลายปวดทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
การรับมือกับผิวเครียด คือการรักษาต้นเหตุของอาการ แล้วแก้ปัญหาความตึงเครียดของร่างกายให้ลดลง เช่น ลดเวลาที่หมกมุ่นกับงานลง แบ่งเวลาดูแลสุขภาพ, นอนหลับพักผ่อนวันละ 8-10 ชั่วโมง, ออกกำลังกายวันละ 30 นาที และรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ