รู้หรือไม่ รองเท้าวิ่งสำคัญกว่าที่คิด! พบกับประโยชน์ของการสวมใส่รองเท้าวิ่ง พร้อมเคล็ดลับเพื่อการวิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
หากพูดถึงเรื่องการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกายถือเป็นสิ่งแรกๆ ที่ผู้คนต่างนึกถึง โดยถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิธีการออกกำลังกายมากมายหลายประเภทเพื่อให้ผู้คนเลือกเล่นตามที่ตนเองถนัด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘การวิ่ง’ ก็ยังคงเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ และทำได้ทุกวัน
จากผลการสำรวจของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพในปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้คนต่างหันมาออกกำลังกายมากขึ้น และพบว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอคือวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนมากถึง 86% ซึ่งหนึ่งในวิธีการคาร์ดิโอสุดฮิตที่ผู้คนเลือกใช้เพื่อดูแลสุขภาพนั่นก็คือการวิ่งนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการวิ่งจะเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ดูไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมากมาย แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่ง ไม่ว่าจะเกิดจากการหกล้ม ข้อเท้าพลิก อุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งการใช้งานกล้ามเนื้อที่หนักเกินไปและผิดวิธี นอกจากนี้ “การสวมใส่รองเท้าผิดประเภท” ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บในเหล่านักวิ่งได้ด้วยเช่นกัน
นายแพทย์ ภัทรภณ อติเมธิน หรือหมอแป๊ป แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและ Running Analysis แห่ง Running Clinic โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวถึงความสำคัญของการสวมใส่รองเท้าวิ่งว่า การสวมใส่รองเท้าวิ่งให้ถูกประเภทนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากใส่รองเท้าวิ่งผิดประเภทจะสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ ซึ่งการสวมใส่รองเท้าวิ่งที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยให้เหล่านักวิ่งสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่เกิดจากการวิ่งได้อีกด้วย
“หลายคนมักจะมองข้ามความสำคัญของรองเท้าวิ่งไปโดยไม่รู้ตัว อาจเพราะคิดว่ารองเท้าแบบไหนก็ใส่ได้เหมือนกัน แต่ในความจริงเทคโนโลยีของรองเท้าแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน อย่างเทคโนโลยีในรองเท้าวิ่งก็ถูกพัฒนาให้เราเคลื่อนที่ไปแนวตรง ส่วนรองเท้าบาสเก็ตบอลก็มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยซัพพอร์ตการกระโดดหรือการออกตัวที่รวดเร็ว ในขณะที่เทคโนโลยีในรองเท้าเทนนิสจะถูกพัฒนาในด้านการเคลื่อนไหวด้านข้าง ซึ่งรองเท้าแต่ละประเภทก็จะมีเทคโนโลยีสำหรับป้องกันการบาดเจ็บที่แตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้นการเอารองเท้าผิดประเภทมาใช้ในการวิ่งก็จะทำให้ไม่สามารถป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการวิ่งได้”
นอกจากนี้ หมอแป๊ปยังได้กล่าวย้ำว่าการนำรองเท้าทั่วไปหรือรองเท้าสนีกเกอร์มาใส่วิ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากพื้นของรองเท้าเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพมากพอที่จะช่วยซัพพอร์ตและดูดซึมแรงกระแทกแรงๆ ที่เกิดจากการวิ่ง หากนำมาสวมใส่เพื่อวิ่งก็อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บในรูปแบบต่างๆ ตามมาได้
“อาการบาดเจ็บที่พบเจอบ่อยที่สุดในเหล่านักวิ่งมักเกิดขึ้นที่เข่าครับ เราเรียกอาการบาดเจ็บนี้ว่าผิวกระดูกอ่อนใต้สะบ้าอักเสบ ไม่ใช่อาการข้อเข่าเสื่อมแบบหลายคนเข้าใจกัน โดยสาเหตุมักเกิดจากการที่นักวิ่งใส่รองเท้าที่ไม่ซัพพอร์ตการวิ่งและวิ่งอย่างหักโหม ซึ่งอาการบาดเจ็บชนิดนี้สามารถป้องกันและรักษาได้โดยการสวมใส่รองเท้าวิ่งที่ดีและวิ่งในระยะที่เหมาะสม ส่วนอาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่พบได้บ่อยเช่นเดียวกันคืออาการบาดเจ็บที่เรียกว่ารองช้ำ หรืออาการปวดส้นเท้า ซึ่งเป็นการบาดเจ็บที่เกิดจากสาเหตุเดียวกันครับ”
ทั้งนี้ หมอแป๊ปยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงนิยามของรองเท้าวิ่งที่ดีว่ารองเท้าวิ่งที่ดีนั้นคือรองเท้าวิ่งที่แต่ละคนชอบ เนื่องจากรองเท้าวิ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่หลากหลายและดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางคนอาจจะชอบรองเท้าวิ่งที่ให้ความเร็วแรง ในขณะที่บางคนชอบรองเท้าวิ่งที่สวมใส่แล้วรู้สึกนุ่มสบาย อย่างไรก็ตาม หมอแป๊ปกล่าวว่าหากอ้างอิงจากงานวิจัยแล้วนั้นรองเท้าวิ่งที่สามารถป้องกันการบาดเจ็บได้ดีที่สุดคือรองเท้าวิ่งที่สวมใส่แล้วรู้สึกสบาย
“สำหรับการเลือกรองเท้าวิ่งอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองนั้น ผมแนะนำว่าให้ลองไปสวมใส่วิ่งในร้านที่มีพื้นที่ให้เราได้ทดลองวิ่งซักหนึ่งกิโลครับ จะเป็นลู่วิ่งหรือเป็นสนามก็ได้ เพราะรองเท้าวิ่งเป็นสิ่งที่ควรลองก่อนที่จะซื้อ ถ้าใส่แล้วสบาย ไม่บีบ ไม่กัด ซัพพอร์ตการวิ่งมากๆ จะดีที่สุดครับ” หมอแป๊ปกล่าวทิ้งท้าย