“ดูน: ภาคสอง” สานต่อตำนานการผจญภัย ภาคต่อจากนิยายเรื่องดัง “ดูน” พร้อมด้วยทีมนักแสดงจากทั่วโลก และจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง “ดูน” ปี 2021 ที่ได้รับรางวัล Academy Award ถึง 6 รางวัล
ตำนานความยิ่งใหญ่บนจอยักษ์ ผลงานขายดีของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ท ดูน พร้อมทั้งนักแสดงที่กลับมาร่วมงานและนักแสดงหน้าใหม่ รวมถึงทิโมธี ชาลาเมต์ ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar (“Wonka,” “Call Me by Your Name”) เซนเดย์อา (“Spider-Man: No Way Home,” “Malcolm & Marie,” “Euphoria”) รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน (“Mission: Impossible – Dead Reckoning”) จอช โบรลิน ผู้ชิงรางวัล Oscar (“Avengers: End Game,” “Milk”) ออสติน บัตเลอร์ ผู้ชิงรางวัล Oscar (“Elvis,” “Once Upon A Time…In Hollywood”) ฟลอเรนซ์ พิวห์ ผู้ชิงรางวัล Oscar (“Black Widow,” “Little Women”)
ภาพยนตร์ “ดูน: ภาคสอง” เป็นการสำรวจการเดินทางแห่งเทพนิยายของพอล อะเทรดีส เขาร่วมมือกับชานี่และเฟรแมนเดินทางล้างแค้น เผชิญหน้ากับผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำลายครอบครัวของเขา และต้องเลือกระหว่างความรักของเขากับชะตาชีวิตที่เห็นทุกสิ่ง เขาพยายามปกป้องเรื่องร้ายๆ ในอนาคตที่มีเพียงเขาหยั่งรู้ได้
ความต่อเนื่องจากเรื่องราวอันยิ่งใหญ่
ภาพยนตร์ของเดอนี วีลเนิฟว์ เรื่อง “ดูน: ภาคสอง” สานต่อความเดิมจากเรื่องราวภาคแรก แต่ยกระดับประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ชม เพิ่มความอลังการของภาพที่น่าตื่นเต้นและฉากแอคชันอันยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยตัวละครใหม่อีกมากมาย การผจญภัยที่สนุกขึ้น รวมถึงเรื่องราวอันทรงพลังและความรักชวนฝัน บรรยากาศในเรื่องคืออนาคตอีกหลายพันปีข้างหน้าของ “ดูน”
เมื่อมาถึงเรื่อง “ดูน: ภาคสอง” ยังคงติดตามการผจญภัยในนิยายของพอล อะเทรดีส ชายหนุ่มที่ถูกชะตากำหนดไว้ว่าจะต้องต่อสู้กับพลังอำนาจ เขาคือลูกชายของผู้ควบคุมการสังหาร ดุค ลีโต อาทรีเส และผู้มีเวทมนตร์อย่าง บีน เกสเซริต เลดี้ เจสสิก้า พอลต้องพบกับการทดสอบใน “ดูน” เขาต้องเอาชนะความกลัวเมื่อโชคชะตาและพลังที่มองไม่เห็นนำพาเขาสู่หาดทรายบนดาวอันไกลโพ้นอย่างอาร์ราคิส
ในเรื่องจะพบทั้งสิ่งที่เป็นอมตะและเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลานั้น ตั้งแต่ความรักสุดโรแมนติกและความรักที่มีต่อโลก ความซื่อสัตย์ การแก้แค้น และการระบายอารมณ์ ในเรื่อง “ดูน: ภาคสอง” ของผู้เขียนฯ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ทได้เพิ่มประเด็นเกี่ยวกับมนุษย์ต่อสู้กับธรรมชาติโลก
การต่อสู้สำคัญของเรื่องเป็นความขัดแย้งที่ไม่มีวันสิ้นสุดระหว่างพลังของความดีกับความชั่วร้าย ฝั่งของความดีคือการจับมือกันระหว่างพอ อะเทรดีสกับเดอะ เฟรเมน สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์ ส่วนฝั่งชั่วร้ายคือเดอะ ฮาร์คอนเนน ที่แสดงออกชัดเจนถึงการโกง ความรุนแรง และความโลภ
การบรรจบพบกันนั้นทำให้เจอกับเรื่องราวที่น่าสนใจ พอลได้พบกับความฉลาดของชานี่และพลังของสติลการ์ ได้รับความไว้ใจและการสนับสนุนจากชาวฟีเม็น ขณะที่พวกฮาร์คอนเนนยังคงออกปล้นทำลายหาดทรายของอาร์ราคิส ซึ่งนั่นยิ่งสร้างความโกรธให้พวกเขาจนนำไปสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบ
การเข้าไปสำรวจในโลกอันน่าตื่นเต้นใบนี้ มีทั้งเรื่องการแย่งชิงแข่งขันไม่ต่างจากเดิม แต่มีการเสริมพลังแกร่งของผู้หญิงเข้าไปในเรื่อง “ดูน” ด้วย ชานี่, เลดี้ เจสสิก้า นักรบเฟรเมนผู้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม่ใหญ่โมเฮียม ยังคงปรากฏตัวตั้งแต่ภาคแรกต่างเป็นเจ้าหญิงอิรูลาน ธิดาแห่งองค์จักรพรรดิ และเลดี้เฟนริง บีน เกสซีริตผู้ซื่อสัตย์ต่อฮาร์คอนเนน และหลงรัก เฟยด์-รอว์ธา หลานชายของบารอนผู้โหดร้าย
ในการพาผู้ชมเข้าสู่โลกของเฟรเมนอย่างลึกซึ้ง ต้องเดินทางเข้าสู่ดินแดนของบารอน เกดิไพรม์ และไปทำความรู้จักกับจักรพรรดิ์และโลกของเขา ได้พบกับผู้ควบคุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นครั้งแรก นักแสดงและทีมงานเดิมกลับมารวมตัวกันบนหาดทรายอันกว้างใหญ่ของอาบูดาบี จนถึงจอร์แดนและบูดะเปสต์ กองถ่ายได้เดินทางไปยังอิตาลีกันเป็นครั้งแรก
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน “ดูน: ภาคสอง"
“เราหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาในเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจบเรื่อง “ดูน” โดยมีพอล เจสสิก้า อยู่กลางทะเลทรายพร้อมกับเดอะ เฟรเมน สติลการ์และชานี่เดินไปยังซีตช์ทาเบรอ พยายามหาที่พัก เราเริ่มกันตรงที่พวกเขากำลังถูกพวกฮาร์คอนเนนซุ่มโจมตี”
การผจญภัยของพอลในเรื่องนี้
“ในเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกันระหว่างพอล คุณแม่ของเขาชื่อเจสสิก้า การเข้าสู่วัฒนธรรมเฟรเมนและเผ่าเฟรเมน ระหว่างนี้พอลและชานี่ต่างตกหลุมรักกัน เริ่มจับมือกันต่อสู้เหล่าผู้กดขี่และศัตรูของพวกเขา พอลเข้าใกล้ฝันร้ายมากขึ้น ซึ่งตรงกับคำทำนายตามที่เห็น และเกิดสงครามการต่อสู้ในนามของเขา”
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในตัวพอล
“พอลถูกทำร้ายจากการอยากแก้แค้นของตัวเอง และสัญชาตญาณอันแรงกล้าของเขาที่อาจพาเขาไปพบกับเหตุร้ายได้ การพยายามแก้แค้นพ่อของเขา เขาอาจทำให้เพื่อนๆ เดอะ เฟรเมน พบกับเรื่องวุ่นวายและสงคราม นับเป็นความลำบากใจที่เขาต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต้องต่อสู้กับเหล่าศัตรูโดยที่ไม่ทำให้เข้าทางคำทำนายแบบพี่น้อง the เบเน เจสเซริต”
วีลเนิฟว์กำกับผลงานจากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับจอน สเพทส์ โดยอิงจากนิยายของเฮอร์เบิร์ท อำนวยการสร้างฯ โดยแมรี่ แพเรนท์, เคล บอยเทอร์, วีลเนิฟว์, ทันยา ลาพอยท์ และ แพทริค แมคคอร์มิค อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยจอช โกรด, จอน สเพทส์, โธมัส ทัล, เฮอร์เบิร์ท ดับบลิว. เกนส์, ไบรอัน เฮอร์เบิร์ท, ไบรอน เมอร์ริตต์, คิม เฮอร์เบิร์ท, ริชาร์ด พี. รูบินสเตน และ จอห์น แฮร์ริสัน ที่ปรึกษาฝ่ายสร้างสรรค์โดยเควิน เจ. แอนเดอร์สัน
วีลเนิฟว์กลับมาร่วมงานกับผู้สร้างสรรค์เดิมจากเรื่อง “ดูน” ของเขา ได้แก่ ผู้กำกับภาพเจ้าของรางวัล Oscar เกร็ก ฟราเซอร์; ผู้ออกแบบฉากเจ้าของรางวัล Oscar แพทริซ เวอร์เม็ตต์; ผู้ลำดับภาพเจ้าของรางวัล Oscar โจ วอล์คเกอร์ ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์เจ้าของรางวัล Oscar พอล แลมเบิร์ท ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายเข้าชิงรางวัล Oscar แจ็กเกอลีน เวสต์ ผู้ประพันธ์ดนตรีเจ้าของรางวัล Oscar ฮานส์ ซิมเมอร์ ที่มาช่วยสร้างสรรค์บทเพลงอีกครั้ง
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์จาก A Legendary Pictures Production, A Film By Denis Villeneuve เรื่อง “ดูน: ภาคสอง” มีกำหนดฉายวันที่ 29 กุ