Self Esteem หรือ ความภาคภูมิใจในตัวเอง คือ ความคิดเห็นที่มีต่อตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต รวมถึงการรับมือกับอารมณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การมี Self Esteem ที่ดี หมายถึงการมีมุมมองเชิงบวกและเห็นความเป็นจริงของตนเอง ตระหนักถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของเรา และยอมรับตนเองในแบบที่เราเป็น รู้สึกมีคุณค่าในตนเองซึ่งไม่ได้มาจากการยอมรับจากภายนอกหรือความคิดเห็นของผู้อื่นเท่านั้น แต่มันมาจากภายใน ซึ่งมีรากฐานมาจากการยอมรับตนเอง ความเห็นอกเห็นใจในตนเอง และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงคุณค่าของเราเองในฐานะปัจเจกบุคคล
เมื่อเรามี Self Esteem ที่ดี เราก็มีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิต ตั้งเป้าหมายที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง และเชื่อในความสามารถของเราที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสร้างขอบเขตที่ดี สอดคล้องกับความชอบของเรา และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีได้
ในทางกลับกัน การเห็นคุณค่าในตนเองต่ำสามารถก่อให้เกิดความสงสัยในตนเอง การพูดคุยในเชิงลบกับตนเอง และเกิดความไม่มั่นใจ คาดหวังให้คนภายนอกค่อยประเมินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจขัดขวางการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีของเรา
การมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพราะขั้นตอนนั้นมันมีโครงสร้าง ความสม่ำเสมอ และความรู้สึกถึงจุดประสงค์ในการรักษาความสัมพันธ์กับตัวเอง ขั้นตอนนั้นสามารถสร้างพื้นที่และเวลาโดยเฉพาะสำหรับการดูแลตนเอง การสะท้อนตนเอง และการเติบโตในตนเอง ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างและรักษา Self Esteem ที่ดีได้ใน 7 ขั้นตอนที่ให้ลองทำทุกวัน
1. เขียน 5 สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณตัวเองในทุกเช้า เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเขียน 5 สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ การปฏิบัตินี้จะช่วยเปลี่ยนความใส่ใจในตัวเองไปยังด้านบวกของชีวิตและปลูกฝังความรู้สึกซาบซึ้งต่อชีวิต
2. การทำสมาธิ จัดสรรเวลาไม่กี่นาทีในแต่ละวันเพื่อฝึกสมาธิ หาพื้นที่เงียบสงบ หลับตา และมุ่งความสนใจไปที่ลมหายใจ การปฏิบัตินี้สามารถช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด และเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเอง
3. ชื่นชมตัวเอง ลิสต์รายการความสามรถเชิงบวกที่ถูกใจเรา ย้ำคำเหล่านั้นกับตัวเองทุกเช้า เสริมสร้างความเชื่อเชิงบวกและความสามารถของตัวเอง
4. การจดบันทึก (Journaling) ใช้เวลาในแต่ละวันจดบันทึกความคิดและความรู้สึกของคุณ การจดบันทึกนี้ทำให้สามารถไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นๆ ทั้งเรื่องดีเรื่องแย่ เพื่อให้ได้รับความชัดเจน และประมวลผลอารมณ์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมืออันมีค่าสำหรับการค้นพบตนเองและการเติบโตของตัวเอง
5. ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมทางกายอย่างไรก็ได้ที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น ฝึกโยคะ หรือออกกำลังกาย การออกกำลังกายไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งช่วยเพิ่มอารมณ์และความเป็นอยู่โดยรวมของคุณได้
6. การดูแลตนเองแบบฟูลออฟชั่น รวมกิจกรรมการดูแลตนเองเข้ากับกิจวัตรประจำวัน เช่น การอาบน้ำเพื่อการผ่อนคลาย ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือทำงานอดิเรกที่คุณรัก การทำสิ่งเหล่านี้ช่วยในเรื่องการจัดลำดับความสำคัญในการดูแลตนเองและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับตัวเอง
7. ถึงเวลาไตร่ตรอง จัดสรรเวลาสองสามนาทีทุกเย็นเพื่อไตร่ตรองถึงวันนั้นๆ ถามตัวเองว่าอะไรผ่านไปด้วยดี คุณเผชิญความท้าทายอะไรบ้าง และบทเรียนอะไรบ้างที่คุณได้เรียนรู้ การมีเช็กลิสต์เหล่านี้ช่วยส่งเสริมการตระหนักรู้ในตนเองและช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนเพื่อการเติบโตในอนาคต