‘นุชี่’ อนุชา บุญยวรรธนะ : วงการภาพยนตร์ไทย และความปรารถนาที่จะให้คนเบื้องหลังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

‘นุชี่’ อนุชา บุญยวรรธนะ : วงการภาพยนตร์ไทย และความปรารถนาที่จะให้คนเบื้องหลังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อต้องการให้ภาพยนตร์ไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์ จะต้องมาจากภาพยนตร์ที่มีคุณภาพและการที่ภาพยนตร์จะมีคุณภาพ ชีวิตคนทำหนังจะต้องมีคุณภาพด้วย

‘นุชี่’ อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับและนักเขียนบท ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติและยังเป็นนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนล่าสุด พูดถึงภาพรวมของวงการภาพยนตร์ไทย และความปรารถนาที่จะให้คนเบื้องหลังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับ The Better ได้ฟังกัน

ซอฟต์เพาเวอร์กับวงการภาพยนตร์ไทย 

“มันต้องทำหนังให้มีคุณภาพก่อน การที่จะทำหนังให้มีคุณภาพเนี่ยวงการภาพยนตร์ก็จะต้องเอื้อให้เกิดการทำหนังให้มีคุณภาพด้วย หมายถึงว่า จะต้องดูว่าการทำงานของบุคลากร เขามีโอกาสเพียงพอหรือเปล่า มีชีวิตที่ดีหรือเปล่ามีเวลาในการทำงานที่พอเพียงหรือเปล่า ถ้าชีวิตคนทำหนังมีคุณภาพก็จะทำให้หนังออกมาดี แล้วก็มีเวลาในการคิดงานเพิ่มเติมไม่ใช่ว่า ต้องเร่งส่ง เงินฉันไม่พอ ฉันต้องเร่งเขียนบท เดือนนึงสามเรื่องอะไรอย่างนี้ เพราะค่าจ้างมันไม่พอ ดังนั้นเราจึงต้องดูให้มันเหมาะสม เลยจะต้องมีพื้นฐานจากคนทำงานให้มีคุณภาพก่อน ถึงจะเป็นงานภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ เมื่อภาพยนตร์มีคุณภาพคนก็มาดู ทีนี้เมื่อคนมาดูเนี่ยสิ่งที่อยู่ในภาพยนตร์ก็เป็นซอฟพาวเวอร์ได้ทั้งหมด”

“ภาครัฐสามารถสนับสนุนได้ ในหลายระดับถ้าเกิดว่าจะมอง เป็นนโยบายเพื่อนำในส่วนของภาพยนตร์ ไปพัฒนาเศรษฐกิจ ไปประชาสัมพันธ์ประเทศก็สามารถสนับสนุนได้หรือว่า ถ้าไม่ได้มีนโยบายตรงนี้ก็ควรจะดูเรื่องกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาวงการภาพยนตร์ เช่น กฎหมายเรื่องการเซ็นเซอร์ การอำนวยความสะดวกในการถ่ายทำ หากไม่ได้มีนโยบายว่าเป็นตัวนำเศรษฐกิจอะไร อย่างน้อยก็ควรมาดูเรื่องกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน”

ไม่เคยหมดไฟ

“ไม่หมดไฟหรอกค่ะ มันเป็นธรรมดาอยู่ดีเมื่อเรามีงานออกมามักจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในแง่ชื่นชม ในแง่ตำหนิติเตียน มันก็เป็นสิ่งที่คนทำงานต้องนำมาพัฒนา ทำไมถึงพัฒนาไม่ได้ติดอุปสรรคอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่สามารถทำบทอย่างที่คนชอบตำหนิกันว่า ภาพยนตร์หรือละครไทยมักเป็นเรื่องเดิมๆ ทำไมเราทำเรื่องแปลกๆ ลงไปแล้วมันไม่ได้ เป็นเพราะอะไร มันก็ต้องมานั่งแก้กันไป หรือว่าทำแล้วเสี่ยงที่จะโดนแบนหรือเปล่า มันก็เป็นเรื่องที่ต้องพัฒนากันต่อไป เมื่อมีคนชมก็ต้องมีคนตำหนิอยู่แล้วมันเป็นธรรมชาติของคนทำงานในวงการแบบนี้”

เทรนด์ผู้ชมจากดูหนังโรง เปลี่ยนเป็นสตรีมมิ่ง

“เทรนด์การดูหนังของผู้ชมมันก็ต้องแปลง ตลอดเวลาเราว่าคุณทำงานก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการโฟกัสที่ "งานของตัวเอง" ให้มันมีคุณภาพออกมา”

เด็กรุ่นใหม่ อนาคตของวงการภาพยนตร์ไทย

“วงการภาพยนตร์ ซีรี่ส์ หรือละครจะต้องมีคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาอยู่แล้ว เพราะว่าเราต้องการมุมมองใหม่ น้ำเสียงใหม่ๆ ในการเล่าไม่งั้นหนังมันก็จะเชย มันก็จะโบราณ มันก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามา มันก็มีทั้งคนที่มีความสามารถแล้วก็คนที่ไม่มีความสามารถในด้าน นั้นก็อาจจะเหมาะไปทำอย่างอื่น มันก็จะต้องเลือกคนที่มีความสามารถในด้านบท ในด้านกำกับมาทำมาเป็นทีมงาน” 

คุณนุชี่กล่าวต่อว่า “หน้าที่ของคนทำงานในวงการภาพยนตร์เมื่อมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามาคือเราต้องวิเคราะห์ว่า เขาต้องการอะไรเพราะว่านั่นคือคนดูเจนเนอเรชั่นใหม่ คุณจึงต้องทำความเข้าใจ เมื่อคุณทำงานกับคนเจน z ไม่ได้เนี่ย มันก็กลายเป็นว่าหนังคุณก็จะเป็นหนังเก่า โบราณทำอะไรที่มันเชย เราจะต้องทำความเข้าใจอยู่แล้วว่าเออชีวิตเธอผ่านอะไรมาบ้างทำไมเด็กเจนนี้จึงเป็นเจนเนอเรชั่นที่กังวลกับความไม่มั่นคงของชีวิต อันเนี่ยเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องราว ในการทำหนังหรือทำความเข้าใจตัวละครที่เป็นวัยรุ่น”

“หน้าที่ของภาพยนตร์มีหน้าที่สะท้อนภาพของมนุษย์ ทำให้คนที่มาดูหนังที่เป็นเจนเนอเรชั่นก่อนๆ มาดู ทำความเข้าใจคนที่เป็นเจนเนอเรชั่นใหม่มากขึ้น มันก็เป็นหน้าที่ของภาพยนตร์อย่างหนึ่งในการเชื่อมความคิดของผู้คน ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าว่าผ่านอะไรมาบ้าง”

ปีที่ 14 ของหนังไทย

“อาจจะมีความหลากหลายมากขึ้น มีความกล้าในการทำหนัง และละครซีรี่ส์ต่างๆ ที่มีความแตกต่างจากเดิม เพราะว่าเราก็ฟังเสียงจากผู้บริโภคที่ตำหนิในเรื่องนี้มาเหมือนกัน ก็จะมีการพัฒนาต่อเนื่องไป”

แนะนำหนังไทย ที่อยากให้คนไทยเปิดใจไปดู

“จริงๆ ถ้าอยากดูหนังที่มันแปลกใหม่ และเป็นความคิดของคนรุ่นใหม่จะแนะนำให้ดู ‘solid by the seashore’ เป็นหนังอิสระ ที่เพิ่งได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังนานาชาติปูซาน แม้จะเป็นสเกลเล็กแต่อยากให้ทุกคนได้ดู อีกเรื่องคือ ‘อานนเป็นนักเรียนตัวอย่าง’ เล่าเรื่องเกี่ยวกับความคิดของเด็กรุ่นใหม่ตัวละครเป็นเด็กมัธยมที่มีปัญหาที่โรงเรียน อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในหนังอิสระ อยากแนะนำหนังอิสระไทย เพราะว่าถ้าอยากดูแนวที่แตกต่างจากกระแสหลัก ก็จะไปอยู่ในหนังอิสระ”

TAGS: #นุชี่ #อนุชาบุญยวรรธนะ #ภาพยนตร์ไทย #หนังไทย #สัมภาษณ์