สงกรานต์สถิติศัลยกรรม “ดึงหน้า เสริมหน้าอก” พุ่งแรง

สงกรานต์สถิติศัลยกรรม “ดึงหน้า เสริมหน้าอก” พุ่งแรง
“รพ.บางมด” เผยตัวเลขคนแห่ทำศัลยกรรมความงามพุ่งช่วงสงกรานต์  เหตุเป็นช่วงเทศกาลหยุดยาว ทำให้พักฟื้นได้นาน จากสถิติพบ ดึงหน้า และเสริมหน้าอก เป็นศัลยกรรมที่คนจองคิวทำมากที่สุด

ข้อมูลอ้างอิงจากจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามไทยในปี 2566 มีมูลค่ากว่า 7.1-7.2 หมื่นล้านบาท แม้มูลค่าดังกล่าวจะยังไม่เท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่ก็มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการคาดการณ์ทั่วโลกว่าอุตสาหกรรมนี้จะโตขึ้นประมาณ 13.2% ในช่วงปี 2567 -2575

โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยว่า สถิติยอดการทำศัลยกรรมของศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ในไตรมาสแรกของปี 2567 พบว่า การทำศัลยกรรมดึงหน้า (Modern Facelift) เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงสุดซึ่งมีผู้สนใจมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ 

1.ผู้ที่สนใจทำศัลยกรรมมีค่าเฉลี่ยอายุที่น้อยลง จากเดิมอายุ 50–70 ปี แต่ในปัจจุบันอายุ 40 ปี ก็เริ่มหันมาสนใจศัลยกรรมดึงหน้ากันแล้ว 
2. กลุ่มผู้สนใจที่เป็นเพศชาย เริ่มมีแนวโน้มการทำศัลยกรรมดึงหน้ามากขึ้น เฉลี่ยสัดส่วนที่ 30% ของกลุ่มคนไข้เพศหญิง 
3.ชาวต่างชาติเดินทางมาทำศัลยกรรมดึงหน้าในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและอเมริกา โดยมีคนไข้ที่เป็นชาวต่างชาติจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากจำนวนคนไข้ทั้งหมดเพราะมั่นใจในความชำนาญและชื่อเสียงของศัลยแพทย์ 
4. โรงพยาบาลมีเทคนิคเฉพาะที่ใช้ในการผ่าตัดและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้คนไข้คลายกังวลในเรื่องความเจ็บปวดหลังผ่าตัดและการพักฟื้นที่สั้นลงมาก

ด้านศัลยกรรมเสริมหน้าอกก็เป็นหัตถการที่นิยมรองลงมา ซึ่งผู้ใช้บริการได้กลับมาให้ความสนใจมากขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมของศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี  และได้พัฒนาเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบใหม่ ถือว่าเป็นเทคนิคที่ทันสมัยมากที่สุดภายใต้แนวคิดการทำแบบ Modern Breast

โดยผสานเทคนิคการเสริมถุงซิลิโคน ทั้งแบบเหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular plane) , ใต้เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (Subfascial plane) และ ใต้กล้ามเนื้อ (Subpectoral plane) เพื่อความเป็นธรรมชาติและปรับระดับตามสรีระหน้าอกของแต่ละบุคคลมากขึ้น ร่วมกับเทคนิคการส่องกล้องช่วยผ่าตัด ที่ช่วยให้แผลผ่าตัดเล็กลง การเจ็บน้อยลง การบวมช้ำหลังผ่าตัดน้อยลงและฟื้นตัวได้เร็วขึ้นโดยเฉลี่ยสามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วัน และ ใช้ชีวิตได้ปกติภายใน 1 สัปดาห์ โดยทีมแพทย์จะมีการตรวจอย่างละเอียดก่อนทำ พร้อมแนะนำขนาดรูปทรงที่เหมาะสมกับโครงสร้าง และ ความต้องการของคนไข้แต่ละคน

อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลได้เตรียมความพร้อมกันมาตั้งแต่ช่วงต้นปีเพื่อรองรับผู้มาใช้บริการ ทั้งเครื่องมือ ทีมแพทย์ และสถานที่ด้วยขนาดโรงพยาบาล 203 เตียง เพราะคาดการณ์ไว้แล้วว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเป็นช่วงวันหยุดที่คนไข้ศัลยกรรมสามารถพักฟื้นร่างกายได้ยาวขึ้น คนไข้ส่วนใหญ่จึงมีการจองคิวกันมาไว้ล่วงหน้าหลายเดือน จนทำให้ยอดจองเต็มไปถึงกลางเดือนพฤษภาคมแล้ว

นอกจากนี้ ข้อมูลจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery หรือ ISAPS) เปิดเผยผลการสำรวจประจำปีในด้านการเสริมความงามในยุคปัจจุบัน ซึ่งระบุว่า ตัวเลขของผู้เสริมความงามโดยศัลยแพทย์ล่าสุด เพิ่มขึ้นถึง 19.3% โดยเป็นการทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดรวมกว่า 12.8 ล้านครั้ง

สำหรับการทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกยังคงเป็นการเสริมหน้าอก ดูดไขมัน ทำตา เสริมจมูก และผ่าตัดตกแต่งหน้าท้อง เป็นต้น ปรึกษาเรื่องศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204

TAGS: #สงกรานต์ #ศัลยกรรม #ดึงหน้า #เสริมหน้าอก