งานศึกษาชิ้นใหม่พบว่า สุขภาพจิตของคนส่วนใหญ่ ไม่ได้ดีขึ้น หรือแย่ลงเพียงเพราะการระบาดใหญ่ของโควิด แต่กลับพบว่าเพศหญิงมีสุขภาพจิตที่น่าเป็นห่วง
รายงานตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ BMJ วิเคราะห์นักศึกษา 137 รายจากทั่วโลก พบว่าในปกติแล้วสุขภาพจิตของคนทั่วไปไม่ได้พบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก่อน หรือ หลังการระบาดของโคโรนาไวรัสที่เลวร้ายที่สุด นักวิจัยได้เผยว่า "แทนที่จะพบเจอวิกฤตทางด้านสุขภาพจิต ประชากรส่วนใหญ่มีความยืดหยุ่นสูง"
นักวิจัยพิจารณาการศึกษาที่ดำเนินการระหว่างปี 2018 ถึง 2019 ก่อนที่จีนจะรายงานการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งแรกต่อองค์การอนามัยโลก และเปรียบเทียบผลลัพธ์เหล่านั้นกับการศึกษาที่ดำเนินการกับคนกลุ่มเดียวกันในปี 2020 หรือหลังจากนั้น พบว่าการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ของอาการทางสุขภาพจิต ซึ่งรวมถึงอาการของภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล "มีค่าใกล้เคียงศูนย์และไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ"
การศึกษาดังกล่าวพบว่า เราไม่พบการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพจิต อาการวิตกกังวล หรือ ซึมเศร้า มีเพียงแย่ลงเล็กน้อย
อย่างไรก็แล้วแต่คนบางกลุ่มกลับรู้สึกว่าสุขภาพจิตของพวกเขาแย่ลง รายงานระบุ เพศหญิงจะเป็นเพศที่มีอาการสุขภาพจิตแย่ลง แม้ว่าจะมีอาการเล็กน้อยก็ตาม การศึกษายังระบุด้วยว่าผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า นักศึกษามหาวิทยาลัย และผู้ที่อยู่ในกลุ่มชนกลุ่มน้อยหรือหลากหลายทางเพศก็มีอาการสุขภาพจิตแย่ลงเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
อาการสุขภาพจิตที่แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญในหมู่ผู้หญิงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง รายงานเสริมว่า ผู้หญิงมีสัดส่วนที่ไม่บาลานซ์ในด้านการดูแลสุขภาพ โดยมีความเป็นผู้ดูแลคนในครอบครัวและรวมการดูแลผู้สูงอายุ นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ความรุนแรงต่อผู้หญิงของคู่ครองเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่