“อุ๊งอิ๊ง” เราสู้เพื่อความหลากหลายทางเพศมาอย่างยาวนาน

“อุ๊งอิ๊ง” เราสู้เพื่อความหลากหลายทางเพศมาอย่างยาวนาน
ปักหมุด Pride Festival Destination ด้วยมหกรรมอีเว้นท์ระดับโลก "The Celebration: Right to Love" พร้อม กิจกรรมยิ่งใหญ่ Bangkok Pride Forum และ Drag Bangkok Festival

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดงานมหกรรมอีเว้นท์ระดับโลก "The Celebration: Right to Love"  เพื่อฉลองเดือนแห่ง Pride สุดยิ่งใหญ่ว่า “ในนามของพรรคเพื่อไทย ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะที่ในปีนี้ได้มีการจัดงาน Pride Month ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะแค่ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยของเรายอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง Pride Month ยังถือเป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายที่สำคัญค่ะ มีสีสันรวมทั้งอีเวนท์ระดับชาติอย่างมาก และอีกทางนึงนะคะยังถือเป็นเศรษฐกิจเทศกาลหรือ Festival Economy ของประเทศไทย"

“จะขอเล่าย้อนให้ทุกท่านฟังนิดนึงนะคะว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็เกิดการต่อสู้ให้เกิดความเท่าเทียมกันทางเพศมาอย่างยาวนานค่ะ เราต้องใช้ทั้งกำลังใจนะคะ จากฝั่งของภาครัฐเอง ภาคเอกชน ภาคประชาชน และรวมไปถึงพี่น้องสื่อมวลชนด้วยค่ะ พรรคเพื่อไทยของเรายืนหยัดเรื่องนี้มานานค่ะตั้งแต่สมัยของไทยรักไทย และเรายังคงเจตนารมย์เดิมไว้ค่ะ เพราะว่าเรื่องความรักเราคิดตรงกันว่าเป็นเรื่องของคนสองคนเพราะฉะนั้นการแต่งงานหรือการสมรสก็ควรเป็นเรื่องของคนทุกคนเช่นเดียวกันค่ะ“ นางสาวแพทองธารกล่าว

นางสาวแพทองธารกล่าวถึงการต่อสู้ความเท่าเทียมตั้งแต่สมัยนายกฯ ทักษิณว่า "ตั้งแต่สมัย 2544 นะคะรัฐบาลของไทยรักไทย นำโดยท่านนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร มีการเสนอแนวคิดให้ทุกเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมาย แต่ตอนนั้นทุกอย่างก็ถูกยุติอย่างรวดเร็ว เพราะเนื่องจากภาคประชาชนในวันนั้นยังมีเสียงการต่อต้านที่ค่อนข้างรุนแรงค่ะ และเมื่อเราได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งในปี 2556 มีการผลักดันอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้นเป็นรัฐบาลที่นายกยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้มีการเสนอร่างพ.ร.บ. คู่ชีวิตเข้าสภา ทำงานร่วมกับภาคประชาชนด้วย แต่จะต้องยุติลงเช่นกัน เพราะเกิดการรัฐประหารขึ้นในปี 2557 จนมาถึงวันนี้พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทยค่ะ"

"เมื่อพ.ร.บ. ผ่านเรียบร้อยแล้วเนี่ยก็สามารถบังคับใช้ได้ในปีนี้นะคะ และพ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมนี้ก็ได้มาสำเร็จที่รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีศิลป์ สำหรับเราเองมันเป็นการใช้กระบวนการทั้งหมดผ่านมานานถึง 23 ปีด้วยกัน กว่านี้จะสำเร็จค่ะภาครัฐมีหน้าที่ในการแก้กฎหมายเพื่อพัฒนาประเทศของเราต่อไป ภาคประชาชน ภาคเอกชน ถ้าไม่ร่วมสนับสนุนคงไม่เกิดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ขึ้นอย่างแน่นอนค่ะการสมรสเท่าเทียมนี้นถือเป็นผลงานของพวกเราทุกคนค่ะ"

“สำหรับงาน The Celebration: Right to Love ถือว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ค่ะที่เห็นว่าประเทศไทยยอมรับความหลากหลายทางเพศ ในนามของพรรคเพื่อไทยเองต้องขอขอบคุณบริษัทสยามพิวรรธน์ พันธมิตรองค์กรภาครัฐและเอกชน อาทิ บางกอกไพรด์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร , สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย UNDP, Drag Bangk และอีกหลายภาคส่วนค่ะที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้น และตัวดิฉันเองหวังเป็นอย่างยิ่งเราจะมีโอกาสได้จัดงาน World Pride ในปี 2030 ซึ่งจะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยต่อไปนอกจากอีเวนท์เกิดขึ้น ก็จะทำให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประชาชนมีความสุขขึ้น ถ้าประเทศของเราเป็นประเทศแห่งงานเทศกาล และทำให้ชาวต่างชาติเห็นว่าประเทศของเราสามารถเที่ยวได้ทุกเดือนและก็เป็นประเทศที่มาแล้วมีความสุขค่ะ” นางสาวแพทองธารกล่าว

TAGS: #PrideMonth #WorldPride #Pride #แพทองธาร #สยามพิวิรรธธ์