“Thailand Coffee Fest 2024” พื้นที่ของคนรักกาแฟกับคอนเซ็ปต์ Regeneration

“Thailand Coffee Fest 2024” พื้นที่ของคนรักกาแฟกับคอนเซ็ปต์ Regeneration
Thailand Coffee Fest 2024 เทศกาลกาแฟสุดยิ่งใหญ่ ที่กลายมาเป็นคอมมูนิตี้หลอมรวมธรรมชาติ-กาแฟ-ผู้คน ที่มีแนวคิดเดียวกัน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่  11 – 14 กรกฎาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 – 8

Thailand Coffee Fest 2024 เทศกาลกาแฟสุดยิ่งใหญ่ ที่ในปีนี้ ตอกย้ำการสร้างความยั่งยืนของวงการกาแฟพิเศษไทย ด้วยแนวคิด "Regeneration" ที่มุ่งฟื้นฟูอย่างสร้างสรรค์ในทุกมิติ เพื่อสร้างกาแฟที่ดีต่อทุกคน

“Regeneration” ฟื้นฟูฟันเฟืองเพื่อพัฒนาอนาคตกาแฟไทย ปัจจุบันอุตสาหกรรมกาแฟไทยมีแนวโน้มเติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างมากในหลายด้าน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งดีที่ Thailand Coffee Fest อยากให้เกิดขึ้นกับวงการกาแฟไทยเสมอมา จึงเป็นที่มาให้การจัดงานปี 2024 นี้ เกิดเป็นแนวคิด “Regeneration” ที่แปลว่าการฟื้นฟู การงอกเงย และการเกิดขึ้นใหม่ เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นที่อยากรักษาความดีงามและทำให้สิ่งเหล่านี้งอกเงยมากยิ่งขึ้น ผ่านการฟื้นฟูวงการกาแฟไทยในทุกมิติ ทั้งธรรมชาติที่ดีขึ้น คุณภาพกาแฟที่ยอดเยี่ยม และผู้คนที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็น 3 ฟันเฟืองสำคัญ

ในการต่อยอดสร้างความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำอย่างการสนับสนุนเกษตรกรที่ใช้วิธีการปลูกกาแฟแบบยั่งยืน การซื้อขายอย่างเป็นธรรม (Fairtrade) และการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีร่วมพัฒนา ไปจนถึงส่งเสริมให้ผู้ดื่มกาแฟเลือกบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะย้อนกลับไปส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สู่จุดหมายปลายทางในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ทุกการกระทำสร้าง “Regeneration” ได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนในอุตสาหกรรมกาแฟ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างแนวคิด “Regeneration” ได้ เมื่อคนต้นน้ำตั้งใจทำกาแฟที่ดีผ่านการทำฟาร์มที่ยั่งยืนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว

ในฐานะคนปลายน้ำ หรือคนดื่มกาแฟ สามารถร่วมส่งเสริมแนวคิดดังกล่าวได้ผ่านการสนับสนุนกาแฟที่ผลิตอย่างยั่งยืน  เช่น มีการทำการค้าอย่างเป็นธรรม (Fairtrade) หรือ การปลูกที่ไม่ทำลายระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสนับสนุนร้านกาแฟที่มีแนวคิดใส่ใจความยั่งยืน

แนวคิด “Regeneration” ต้องวัดผลได้จริง การวัดผลสำเร็จได้เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การลงมือทำ โดยภายในงานมีนโยบายการวัดผลอย่างรอบด้าน ผ่านระบบตรวจสอบ (Audit) และมีจอแสดงผลอย่างชัดเจน ให้ผู้ร่วมงานสามารถติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การปลูกกาแฟ การบริโภคกาแฟ ไปจนถึงกระบวนการจัดงาน Thailand Coffee Fest 2024 ซึ่งการวัดผลเหล่านี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับแนวคิดการฟื้นฟูในแบบของตัวเองได้ โดยเริ่มจากการรับรู้ว่ากิจกรรมที่ทุกคนเข้าร่วมในงานนี้ สามารถวัดผลออกมาในเชิงตัวเลขได้ เช่น ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ในการเดินทางมาร่วมงาน ทั้งรถขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งทางผู้จัดงานจะชดเชยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลการเดินทางอย่างละเอียดจากผู้เข้าร่วม 

ด้านการออกแบบงานที่ปีนี้ร่วมกับ PO-D Architects บริษัท สถาปนิกพอดี จำกัด ภายใต้ในคอนเซ็ปต์ “Everyday Special” ที่ใช้วัสดุที่พบเห็นได้ในทุกวัน และเมื่อจบงานสามารถส่งมอบนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ และความพิเศษของปีนี้ในฐานะการจัดงานรูปแบบ Carbon Neutral Event   จะมีการทำแบบสอบถามการเดินทาง เพื่อนำข้อมูลคาร์บอนในการเดินทางไปชดเชยกับการจัดงานรวมทั้งภายในงานยังคงรักษามาตรฐานการจัดการขยะอย่างเข้มงวด โดยในปีนี้จะยกระดับการจัดการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูลที่วัดผลได้ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการต่อยอดพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นทุกปี 

คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด  กล่าวถึงคอนเซ็ปต์ THailand Coffee Fest 2024 ปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ Regeneration ความหมายของแนวความคิดครั้งนี้นอกจากความหมายของการ Regeneration ที่หมายถึงความต่อเนื่องของช่วงวัย ที่วงการกาแฟพิเศษ หรือ Specialty Coffee เริ่มมีกลุ่มวัยรุ่นที่มาในรูปแบบเกษตรกร ลูกค้า รวมทั้งผู้บริโภคก็อยุน้อยลงเรื่อยๆ และยังมีความรู้ความสามารถมากขึ้นอีกด้วย ส่วนในอีกความหมายของคอนเซ็ปต์ Regeneration คือการฟื้นฟู ไม่ใช่เพราะของเดิมไม่ดี แต่เป็นการฟื้นฟูให้ดีที่สุด

คุณช้างน้อยกล่าวว่า ความสำเร็จของงาน Thailand Coffee Fest ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราเดินหน้าวางแผนการจัดงานอย่างรอบด้าน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน และกำหนดทิศทางอนาคตกาแฟพิเศษไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยนำเสนอผ่านการเล่าเรื่องจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงที่อยู่ในระบบนิเวศกาแฟ ตั้งแต่เกษตรกร บาริสต้า โรสเตอร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์อีเว้นท์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างวัฒนธรรมให้ผู้เข้าร่วมงาน ตระหนักถึงวิธีง่ายๆ ที่จะร่วมสร้างความยั่งยืน อย่างการพกแก้ว และถุงผ้าส่วนตัวมาที่งาน, การแยกขยะ และการออกแบบงานอีเว้นท์ที่คำนึงถึงปลายทางของวัสดุต่างๆด้วย 

ทั้งยังคาดหวังว่าการจัดงาน Thailand Coffee Fest นั้นนอกจากจะเป็นการรวมตัวของคนที่สนใจกาแฟพิเศษแล้วนั้น ยังเป็นงานที่จัดเพื่อแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่า การจัดงานที่ลดคร์บอนฟุตปริ๊นซ์สามารถทำได้ เราจัดเป็น 3 ลำดับคือ การจัดงานแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแยกขยะ การคำณวนคาร์บอนฟุตปริ๊นซ์สำหรับผู้ที่มาร่วมงาน ลำดับถัดมาคือการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในวงการกแฟพิเศษของทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นน้ำ ที่เป็นเกษตรกร การดูแลเอาใจใส่สภาพแวดล้อม พื้นที่ที่ปลูก กลางน้ำผู้ขาย จนถึงผู้บริโภคที่เป็นปลายน้ำ และลำดับสุดท้ายภาครัฐ ที่จะช่วยนำประโยชน์ที่ได้จากงานในครั้งนี้ไปต่อยอดได้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ

คุณณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า ตลอด 9 ปี ของการจัดงาน Thailand Coffee Fest เทศกาลที่มุ่งหวังขับเคลื่อนและสร้างการเปลี่ยนแปลงของวงการกาแฟพิเศษไทย ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้เราต้องคิดอย่างรอบด้าน เพื่อให้ทุกคนทั่วทั้งองคาพยพเดินหน้าไปพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในปีนี้ เราจึงจัดงานภายใต้แนวคิด ‘Regeneration’ ที่หลอมรวม ธรรมชาติ-กาแฟ-ผู้คน เข้าด้วยกัน จนทำให้เกิดการรังสรรค์ และต่อยอดไปในหลายรูปแบบ อันนำไปสู่สิ่งแวดล้อม คุณภาพกาแฟ และชีวิตผู้คนที่ดีขึ้น ซึ่งเราเรียกคอมมูนิตี้ที่เชื่อมโยงกลุ่มคนเหล่านี้ว่า "วงการกาแฟพิเศษไทย" 

อีกหนึ่งจุดประสงค์ของงานครั้งนี้คือการยกระดับกาแฟไทยให้กลายเป็นกาแฟพิเศษ เมื่อมองย้อนกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา วงการกาแฟบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมาทำให้คนหันมาสนใจทำกาแฟดื่มเอง ทำให้วงการกาแฟคึกคัก แต่ไม่เพียงแค่ผู้บริโภคหันมาสนใจมากขึ้น แต่เกษตรกรเองก็มีความรู้ความสามารถมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ปลูกเพื่อค้าขายเท่านั้น แต่ยังดูแลครบทั้งระบบ เกษตรกรอายุน้อยลงเรื่อยๆ ผู้บริโภคก็เช่นกัน เมื่อคนดื่มเยอะขึ้น และมีช่วงเวลานานขึ้น อุตสาหกรรมนี้จะมีการวิวัฒนาการยิ่งขึ้น

คอมมูนิตี้กาแฟ ที่เป็นมากกว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับเงินตรา แต่เป็นการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศทั้งหมดในวงการกาแฟพิเศษไทย ตั้งแต่ต้นน้ำที่ต้องเริ่มทำเกษตรที่ยั่งยืนต่อโลกและชุมชน โดยใช้ประสบการณ์จากคนรุ่นเก่า ผสานกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่ร่วมพัฒนาผลผลิต สู่การซื้อขายอย่างเป็นธรรม และสร้างความเข้าใจ เชิญชวนให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าในการเลือกกาแฟแก้วถัดไป ที่ควรสร้างผลกระทบเชิงบวก ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ซึ่งผู้บริโภคเป็นห่วงโซ่สุดท้ายที่สำคัญในการขับเคลื่อนคอมมูนิตี้กาแฟพิเศษไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน

คุณอายุ จือปา เกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในการปลูกกาแฟกล่าวว่า ชาวสวนกาแฟรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจในธรรมชาติ ในระบบนิเวศโดยรอบ ไม่เพียงแค่ต้องการผลผลิตโดยการใส่ปุ๋ยเท่านั้น แต่ยังรู้จักการวิเคราะห์ดิน มีความรู้ความสามารถในการเข้าใจถึงการปลูกกาแฟที่ไม่ทำลายระบบนิเวศ และยังสามารถตอบสนองรสชาติตามที่ตลาดต้องการได้ จึงเป็นที่มาว่าคนต้นน้ำสามารถสร้างความยั่งยืนได้อย่างไร

พวกเขารู้ว่าการปลูกกาแฟกับต้นอะไรถึงจะดี หากปลูกกาแฟกับต้นอโวคาโดจะสร้างผลลัพธ์อย่างไร หากมองจากมุมสูงอาจจะเห็นว่ามันเป็นป่า แต่เมื่อมองลงไปให้ลึกแล้วกลับพบว่ามันไม่ได้ส่งผลดี ดังนั้นการทำ Agroecology คือการทำฟาร์มแบบยั่งยืนที่ทำงานร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งการปลูกกาแฟโดยปกติแล้วจะต้องรักษาอุณหภูมิให้ได้ไม่เกิน 30 องศา มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะต้องทำให้พื้นที่ในการปลูกกาแฟเป็นป่า เพราะด้วยตัวของต้นกาแฟนั้นมันควรจะอยู่ในป่า

สำหรับบรรยากาศการจัดงานทั้ง 4 วัน จะเต็มไปด้วยมิตรภาพที่ผู้คนในวงการกาแฟพิเศษไทยเตรียมส่งมอบองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันให้ผู้คนในวงการกาแฟพิเศษไทยเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมจัดเต็มกับการสร้างสรรค์พื้นที่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักกาแฟผ่านสินค้าสารพัดชนิด ตั้งแต่ เมล็ดกาแฟสายพันธุ์พิเศษ ไปจนถึงอุปกรณ์เพื่อ Home Brewing พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์หลากหลายควบคู่ไปกับกาแฟ รวมถึงร้านเบเกอรี ชา โกโก้ และไอศกรีม ที่มาช่วยสร้างความกลมกล่อมให้กับงานในปีนี้

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมไฮไลท์และการแข่งขันที่น่าสนใจมากมาย อาทิ

·    โซน Coffee Creativity นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ผ่านป๊อปอัปกิจกรรมแบบฉบับ The Cloud ที่เตรียมวัตถุดิบท้องถิ่นไทยมานำเสนอทางเลือกให้คาเฟ่นำไปใช้ประกอบเป็นเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ อาทิ น้ำตาลมะพร้าว , น้ำผึ้งป่าเดือนห้าจากชาดอกชากาแฟ , สาคูต้น , ไซรัปบ๊วย เป็นต้น และความพิเศษของโซนนี้คือการออกแบบด้วยลายเส้นสุดน่ารักของ Sundae Kids เป็นจุดเช็กอินประจำปีที่คอกาแฟห้ามพลาด

·      Treasure Omakase กิจกรรมชิมสุดยอดกาแฟพิเศษไทย กาแฟที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติ ประจำปี 2567

·      การแข่งขัน Thailand Es Yen Championship 2024 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักชิงเอสเย็น เมนูกาแฟสัญชาติไทย ประจำปี 2567

·      การแข่งขัน Thailand Coffee Event 2025 เพื่อค้นหาแชมป์ประจำประเทศไทย ไปแข่งขันต่อในระดับโลก ประกอบด้วยรายการแข่งขัน Thailand National Brewers Cup Championship 2025 และรายการแข่งขัน Thailand National Barista Championship 2025 

·      โอกาสได้กระทบไหล่กับ Martin Wölfl World Brewers Cup Champion บาริสต้าหนุ่มสัญชาติออสเตรีย แชมป์โลก Brewers Cup คนล่าสุด และอีก 4 แชมป์บาริสต้าจากหลากหลายเวทีที่จะมาเสิร์ฟกาแฟให้คุณทุกวันในงาน

·      เซอร์ไพร์สกิจกรรมเวิร์คชอปสุดพิเศษ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

พร้อมพบกับไฮไลท์สุดพิเศษ Treasure Omakase ชิมสุดยอดเมล็ดกาแฟพิเศษไทย กาแฟที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสมบัติประจำปี 2567 และชมการแข่งขัน Thailand Es Yen Championship 2024 เพื่อเฟ้นหาที่สุดของบาริสต้าไทย ที่ชงเมนูเอสเย็น กาแฟสัญชาติไทยได้กลมกล่อมมากที่สุด การแข่งขัน Thailand Coffee Event 2025 เพื่อค้นหาแชมป์ประจำประเทศไทย ไปแข่งขันต่อในระดับโลก ประกอบด้วยรายการแข่งขัน Thailand National Brewers Cup Championship 2025 และรายการแข่งขัน Thailand National Barista Championship 2025 นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้กระทบไหล่กับ Martin Wölfl World Brewers Cup Champion บาริสต้าหนุ่มสัญชาติออสเตรีย แชมป์โลก Brewers Cup คนล่าสุดด้วย

เตรียมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษของ "วงการกาแฟพิเศษไทย" ที่เต็มไปด้วยความรู้ ความสนุกสนาน และความยั่งยืนได้ที่งาน Thailand Coffee Fest 2024 คอมมูนิตี้ที่หลอมรวมธรรมชาติ-กาแฟ-ผู้คน เข้าด้วยกัน จัดงานขึ้นระหว่างวันที่  11 – 14 กรกฎาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 – 8 บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดกิจกรรมในแต่ละวันได้ที่ ได้ที่เฟสบุ๊ก Thailand Coffee Fest คลิกhttps://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest หรือเว็บไซต์ www.thailandcoffeefest.org

TAGS: #ThailandCoffeeFest