เฮย่า เอ็ดดูเคชั่น กระบวนทัศน์การศึกษาใหม่โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย Passion และมีความเฉพาะตัวเป็นรายบุคคล
เคยสงสัยมั้ยว่ามันจะมีจริงหรือเด็กเกเรที่ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ แต่สามารถประสบความสำเร็จได้ อยากให้ทุกคนลองอ่านเรื่องราวของเด็กชายอายุยังไม่ถึง 15 ปีคนนึงที่ย้ายโรงเรียนมากว่า 6 โรงเรียนในหลายประเทศ แถมยังโดนแบนจากห้างสรรพสินค้าไม่ให้เข้าอีกเด็ดขาด เด็กเกเรที่ไม่รู้ว่าจะเรียนหนังสือไปทำไม ไม่เห็นความสำคัญของโรงเรียน จากเด็กที่บ้านมีปัญหา เลยทำตัวมีปัญหา กลับกลายเป็นเด็กที่เรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายในอายุ 16 ปีด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 พร้อมเปิดธุรกิจออนไลน์ที่มีรายได้หลักล้าน หันมาเห็นคุณค่าของตัวเอง เลิกนิสัยบูลลี่ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 1 ปี
หากเป็นที่อื่นคงจะไม่ได้รับการใส่ใจ หรือปล่อยให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา แต่ “เฮย่า เอ็ดดูเคชั่น” (HEYA Education) สามารถที่จะค้นพบความเก่ง ความมุ่งมั่น และความฝันที่แท้จริงที่สามารถทำให้เด็กได้สานฝันของพวกเขาที่ระบบการศึกษาทั่วไปไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เฮย่า เอ็ดดูเคชั่น คือ ศูนย์การศึกษานานาชาติในประเทศไทย หลักสูตรของ HEYA ได้รับการรับรองโดยหน่วยงานที่ออกใบรับรองชั้นนำในสหรัฐอเมริกาและสหรัฐราชอาณาจักร เช่น WASC, Cognia, Cambridge และ Edexcel
HEYA ออกใบประกาศนียบัตรการศึกษาเช่นเดียวกับโรงเรียนปกติทั่วไป แต่ให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นแบบเฉพาะบุคคล นักเรียนที่ HEYA จะสามารถได้ทั้งใบแสดงผลการเรียนและประกาศนียบัตรทั้งจากของไทยและสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่สามารถใช้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
ด้วยโปรแกรม Dual Enrollment จะช่วยให้นักเรียนได้รับหน่วยกิตจากมหาวิทยาลัย ไปพร้อมกับการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้ถึงสองปีในการเรียนมหาวิทยาลัย และช่วยสร้างแฟ้มผลงานที่น่าประทับใจเพิ่มโอกาสในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยมากขึ้น เน้นการค้นหาความเป็นอัจฉริยะในเด็กแต่ละคนออกมา ผ่านการเรียนรู้ด้วยใจรักที่จะทำ เอาความชอบและความรักนำทางการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุความฝัน และประสบความสำเร็จได้อย่างภาคภูมิใจ ได้เปิดให้ลงทะเบียนเรียนเทอมแรกอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2567 และสำหรับคอร์สภาคฤดูร้อน จะเริ่มในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ สำหรับนักเรียนอายุ 7-17 ปี
โบวี่ วงศ์วัฒนกิจ ผู้ก่อตั้งเฮย่า เอ็ดดูเคชั่น กับความชอบด้านระบบการศึกษาที่ทำให้มี HEYA ในวันนี้
HEYA เกิดจากความรัก ความต้องการที่จะเห็นระบบการศึกษาที่สามารถช่วยเด็กได้จริงๆ ระบบการศึกษาที่จะสามารถดึงศักยภาพของเด็กที่มี Passion ชัดเจนมาขัดเกลาให้กลายเป็นคนที่มีประสิทธิภาพ และยังสามารถตอบแทนสังคมได้ในอนาคต HEYA ไม่ได้ต้องการแค่เด็กเก่งเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องการเด็กที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม จะเป็นคนเก่งไปเพื่ออะไร หากไม่สามรถช่วยเหลือสังคมได้ จากการดูงานระบบการศึกษาด้วยตัวเองมากกว่าหลายสิบแห่งทั่วโลกจึงทำให้ตกผลึกมาเป็น HEYA
โดยฝั่งของด้านวิชาการที่จะดูจากพื้นฐานของเด็กที่เราสัมภาษณ์เข้ามาว่าชอบอะไร มี Passion ในเรื่องไหนเราจะผลักดันเขาในเรื่องนั้น ให้เขาได้รับความรู้ที่ครบถ้วนทุกด้าน และเสริมเรื่องที่ทำให้เขาสนใจ บางครั้งเราจะพบว่ามีเด็กที่เก่งมากโดยที่เขาไม่รู้ตัว เด็กอายุ 8 ขวบ ที่พ่อแม่มาหาเราเพราะความมีอัจฉริยะ และความสนใจของเขา ซึ่งเราได้ประเมินร่วมกับศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ Immunology จนสามารถจัดให้เขาได้เรียนกับศาสตราจารย์ในระดับความรู้เดียวกับนักศึกษาแพทย์ปี 3 ด้วยระบบการศึกษาของเราทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายว่าเด็กจะทำได้
การเรียนแบบลงลึกความเชี่ยวชาญที่จะนำผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอาชีพนั้นๆ มาให้ความรู้ และตอบคำถามของเด็กๆ ได้อย่างถูกต้องเพราะเราเชื่อว่าการให้คนที่รู้จริงมาสอนนอกจากความรู้เชิงวิชาการแล้ว ยังได้รับรู้ประสบการณ์ของเขาเหล่านั้นอีกด้วย ความรู้ในมหาวิทยาลัยอัปเดตช้า การที่เด็กมี Expertmentor มาสอนเลยสิ่งที่เด็กรู้มันจะอัปเดทตลอดเวลา ดังนั้นบททดสอบ ข้อสอบต่างๆ จะเป็นเรื่องจริง เด็กทุกคนจะต้องผลิตผลงานออกมาที่เป็น portfolio ที่โดดเด่น สุดท้ายปลายทางเป็นการพิสูจน์ให้มหาวิทยาลัยเห็นว่าเด็กไม่ต้องการมหาวิทยาลัยก็สำเร็จได้ในสาขานั้นๆ แล้วมหาวิทยาลัยเขาอยากรับเพราะเหมือนไม่ต้องง้อเขาแล้ว ขนาดยังไม่เรียนกับเขายังได้ขนาดนี้ นี้คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยระดับโลกมองหา เราไม่ได้หวังให้เด็กๆ เรียนให้สอบได้คะแนนสูง แต่เราต้องการให้เขาสามารถเริ่มงานได้จริง จบออกไปแล้วสามารถทำงานได้ เป็นตัวจริงในสายงานนั้นๆ โดยเด็กๆ สามารถที่จะลงเรียนเป็นแบบพาร์ทไทม์ได้ ในเวลาปกติก็เรียนที่โรงเรียนของเขา แต่เราจะมีจำนวนชั่วโมงที่จะบังคับให้เด็กเข้าให้ครบใน 1 สัปดาห์
เมื่อ Hard Skills ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่แล้ว เราก็ไม่ควรมองข้าม Soft Skills ที่จะช่วยให้เด็กสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นเอกลักษณ์ของ HEYA อีกด้วยเราเรียกว่า HEYA Character ที่จะให้เฉพาะกับนักเรียน Full-time เท่านั้น โดย HEYA Character แบ่งออกเป็น 5 เรื่องได้แก่ Entrepreneurial Thinking Skills ความเห็นอกเห็นใจ การคิดเชิงวิพากษ์ ความเป็นผู้นําในการทํางานร่วมกัน และความคิดสร้างสรรค์, PE/ Health/ Relationship Education เรียนรู้การเริ่มความสัมพันธ์ การดูแลตัวเอง มารยาท สุขภาพจิต สอนให้รู้จักรักตัวเอง, Speech and Personality Development การสร้างความมั่นใจเมื่อต้องพูด หรือนำเสนอในที่สาธารณะ เสริมทักษะการพูด, Current World Issue อัปเดตโลก ปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม ทำให้เด็กรู้จักรับผิดชอบต่อสังคม, Field Trips and Tour ขยายขอบเขตทั้งภายในและภายนอกประเทศไทย ทั้งหมดนี้เพื่อให้เด็กๆ จาก HEYA มีความรับผิดชอบต่อสังคม
HEYA รองรับนักเรียนแบบ Full-time จำนวน 25 คน เพื่อให้การดูแลนักเรียนในช่วงเทอมแรกทั่วถึง โดยมีครูประจำ 3 คนที่จะสอนวิชาพื้นฐาน และก่อนเข้ารับการศึกษาผู้เรียนและผู้ปกครองจะต้องมีการทำแบบสอบถามและสัมภาษณ์เพื่อให้ทราบถึงจุดประสงค์และความต้องการของทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง และศูนการศึกษา เพื่อหาแนวทางวางแผนการเรียนได้อย่างตรงจุดและตอบโจทย์ต่อผู้เรียนมากที่สุด
อเล็ก โกลด์แมน หัวหน้าฝ่ายการเรียนรู้ของ เฮย่า เอ็ดดูเคชั่น กล่าวว่า “คำกล่าวที่ว่า ‘ลูกสามารถทำอะไรก็ได้’ คือคำกล่าวที่ทำตามได้ยากที่สุดสำหรับเด็กเพราะมันเหมือนทิ้งเขาไว้ที่ใดที่หนึ่ง และทิ้งเขาไว้ทุกๆ ที่ในเวลาเดียวกัน และเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ดังนั้นอย่าพูดว่า จะทำอะไรก็ได้ ให้หันมาพูดว่า “อะไรที่ลูกอยากทำ อะไรที่สนใจ” หันมาสังเกตสิ่งที่เขาสนใจ ช่วยกันค้นหา งานของเราคือการกำหนดกระบวนทัศน์การศึกษาใหม่โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย Passion และมีความเฉพาะตัวเป็นรายบุคคล การใช้แนวทางปฏิบัติแบบเดียวสำหรับทุกคน เป็นแนวทางที่ไม่ตรงกับความจริงในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นเราจึงปรับแต่งทุกแง่มุมของหลักสูตร ให้เหมาะสมกับความต้องการ และแรงบันดาลใจเฉพาะตัวของนักเรียนแต่ละคน”