ภาวะเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงนั้นเกิดขึ้นได้ทุกคน แต่บางรายจะเกิดความรู้สึกที่รุนแรง รู้สึกถึงประสบการณ์ที่ตกอยู่ในเหตุการณ์รุนแรงนั้นซ้ำๆ จนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ทำความรู้จักภาวะ PTSD
PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) คือโรคในกลุ่มที่เกิดจากความกดดันทางจิตใจชนิดหนึ่ง ซึ่งย่อมาจาก Posttraumatic Stress Disorder หรือที่รู้จักในชื่อ “โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง” ผู้ป่วยจะมีความเครียดและความรู้สึกที่รุนแรงมากหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้าย เช่น อุบัติเหตุ สงคราม ภัยพิบัติ ความรุนแรงทางเพศ หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่สะเทือนใจอย่างมาก
ดอกเตอร์รักษาเผยข้อูลเกี่ยวกับผู้ป่วย PTSD อาจจะเป็นผู้ที่เผชิญกับเหตุการณ์โดยตรง หรืออาจเป็นผู้พบเห็น / พยานในเหตุการณ์ก็ได้ เมื่อต้องเผชิญกับเหตุกระตุ้นซ้ำ เช่น สถานการณ์ สถานที่ หรือบุคคลที่คล้ายกับเหตุการณ์เดิมก็สามารถกระตุ้นความคิด ความทรงจำ หรือความรู้สึกที่ฝังใจในอดีตจนอาการทางจิตกำเริบขึ้นมาอีกครั้งได้ ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ
ลักษณะสำคัญของ PTSD มี 3 ด้านหลัก คือ มีการรู้สึกถึงประสบการณ์ที่ตกอยู่ในเหตุการณ์รุนแรงนั้นซ้ำๆ พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และมีอาการตื่นตัวได้ง่าย
เหตุการณ์รุนแรงที่อาจกระตุ้นให้เกิด PTSD เช่น
- อุบัติเหตุร้ายแรง
- ภาวะสงคราม
- การถูกทารุณกรรมทางร่างกาย / ทางเพศ
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
- การถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง
อาการของโรค PTSD
หลังจากเผชิญเหตุการณ์รุนแรง ผู้ป่วย PTSD จะแสดงอาการออกมาให้เห็นได้หลายลักษณะ โดยจะมีอาการนานมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป แพทย์ได้จำแนกอาการของผู้ป่วยออกเป็น 4 กลุ่มดังนี้
กลุ่มอาการหวนนึกถึงเหตุการณ์ซ้ำๆ (Re-experiencing): ผู้ป่วย PTSD จะมองเห็นภาพเหตุการณ์เลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า (Flashback) หรือฝันถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ (Nightmare)
กลุ่มอาการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์สะเทือนใจ (Avoidance): ผู้ป่วย PTSD มักจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ สถานที่ สิ่งของ หรือบุคคลที่อาจจะกระตุ้นความทรงจำที่สะเทือนใจ รวมถึงผู้ป่วยจะพยายามหลีกเลี่ยงความคิด ความทรงจำ หรือความรู้สึกที่เกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอีกด้วย
กลุ่มอาการตื่นกลัว (Arousal and Reactivity): ผู้ป่วยจะมีอาการตกใจง่าย หวาดกลัวอย่างมาก วิตกกังวลรุนแรง นอนไม่ค่อยหลับ และหงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย อาการกลุ่มนี้อาจทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้ยากลำบาก
กลุ่มอาการความคิดและอารมณ์ผันแปร (Cognition and Mood): ผู้ป่วย PTSD จะเริ่มมองโลกในแง่ร้าย คิดว่าตัวเองไร้ค่า ไม่สมควรอยู่บนโลกใบนี้ ความรู้สึกบิดเบี้ยวไปจากความจริง ไม่รู้สึกสนุกสนานกับกิจกรรมที่ตัวเองชอบเหมือนแต่ก่อน
การเยียวยา
ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 ราชบุรี เผยการเยียวยาโรคเครียดภายหลังภยันตรายหรือ PTSD โดยที MACC มี 3 ระยะ
ระยะที่ 1 คือ ช่วง 3 วันแรก โดยทีม MCATT
พื้นที่ เริ่มดูแลให้กำลังใจประชาชน เนื่องจากยังมีความหวาดกลัว วิตกไม่สบายใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะประชาชนและครอบครัวที่อยู่ใกล้ชิด ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ต้องดูแลรายบุคคลทุกครอบครัว (แนะนำดูแลตนเอง เช่น นอนหลับ เลี่ยงสุรา/ยาเสพติด หาคนพูดคุย)
ระยะที่ 2 คือ ช่วง3 วันแรกถึง 2 สัปดาห์
ยังคงดูแลต่อเนื่องในแง่มุมจิตใจที่จะมีแผลใจ เจ็บปวด และความทุกข์ปรากฏมากขึ้นความเศร้าโศก กังวลมากนอนไม่หลับ, สะดุ้งผวากลางคืน ทีม MCATT และศูนย์เยียวยาในชุมชน กระจายให้ช่วยเหลือเชิงรุก ไปเยี่ยมบ้าน ประเมิน ให้คำปรึกษาแนะนำ เยียวยาใจ
ระยะที่ 3 คือช่วง 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือนหรือนานกว่านั้น
ทีมพื้นที่ดูแลต่อเนื่องและกระจายทำความเข้าใจกับพื้นที่ให้สามารถปรับตัวและร่วมกันดูแล โดยรายที่มีปัญหาสุขภาพจิตสำคัญได้รับการส่งต่อดูแลเฝ้าระวังอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกัน โรค PTSD
ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเกิดภาวะ PTSD
สิ่งที่ควรทำ
ผู้ป่วยโรค PTSD จะต้องปฏิบัติตนเพื่อไม่ให้อาการกำเริบและรุนแรงยิ่งขึ้น โดยจำแนกเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยควรปฏิบัติ และสิ่งที่ผู้ป่วยไม่ควรปฏิบัติ ได้ดังนี้
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค PTSD เพื่อทราบวิธีจัดการกับอาการที่กำลังเผชิญ
- ปฏิบัติตามแผนการรักษาของจิตแพทย์อย่างเคร่งครัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- เมื่อมีความเครียดหรือเกิดอาการวิตกกังวล ให้ทำกิจกรรมที่ผู้ป่วยชอบ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ปัจจุบัน
- ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนรัก ความรู้สึกอบอุ่นใจจะช่วยเยียวยาอาการได้ดี
สิ่งที่ไม่ควรทำ
ห้ามใช้ยาเสพติดทุกชนิด เพราะอาจมีผลต่อระบบประสาท เป็นอุปสรรคต่อการรักษาโรค PTSD ได้