นอกจากคน หรือน้องหมาจะเป็นโรคฮีทสโตรกได้แล้ว สัตว์ตัวเล็กเช่น กระต่าย แมว หนูตะเภา มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคฮีทสโตรกเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นได้เช่นกัน ผู้เลี้ยงควรหมั่นสังเกตอาการในช่วงนี้
ผลการศึกษาใหม่จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมเทรนต์เผย ผู้เชี่ยวชาญเตือนสุนัขไม่ใช่สัตว์เลี้ยงชนิดเดียวที่ไวต่ออาการอ่อนเพลียจากความร้อน นักวิจัยพบว่าสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น กระต่าย แมว หนูตะเภา มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคฮีทสโตรกเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล นักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขและสัตว์ขนาดเล็ก ที่นำมาพบกลุ่มสัตวแพทย์ในสหราชอาณาจักรระหว่างปี 2013 ถึง 2018 ผลวิเคราะห์พบว่าสุนัขเป็นโรคฮีทสโตรกบ่อยที่สุด โดยมีการบันทึกถึง 146 ราย พบประมาณร้อยละ 75 น้องหมาจะร้อนเกินไประหว่างออกกำลังกาย ขณะที่ร้อยละ 7 เกิดจากติดอยู่ในรถที่ร้อนจัด
จากการศึกษาพบว่า บูลด็อกและน้องหมาพันธุ์หน้าแบน มีความเสี่ยงต่ออาการอ่อนเพลียจากความร้อนเป็นพิเศษ นับเป็นร้อยละ 20 ของกรณีฮีทสโตรก
จำนวนผู้ป่วยโรคฮีทสโตรกมากที่สุดในบรรดาแมวนั้นเชื่อมโยงกับแมวที่มีอายุมากกว่า 15 ปี หนูตะเภา กระต่ายได้รับการรักษาด้วยโรคฮีทสโตรกเช่นกัน
“มีความเข้าใจผิดว่าโรคลมแดดในสัตว์เลี้ยงเกี่ยวข้องกับสุนัขในรถร้อนเท่านั้น และเราจำเป็นต้องทำมากขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงปัจจัยเสี่ยง ไม่เพียงแต่กับสุนัขเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชากรสัตว์เลี้ยงในวงกว้างด้วย” ดร. แอนน์ คาร์เตอร์ ผู้ร่วมวิจัยกล่าว
“เจ้าของสัตว์เล็ก เช่น กระต่าย เฟอเร็ต และหนูตะเภา อาจต้องทบทวนที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงและดำเนินการเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของพวกเขาเย็นลงในเดือนที่อากาศอบอุ่น เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคลมแดด”
อาการที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การหายใจผิดปกติ ง่วงซึม ทรุดลง และท้องร่วง นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าหมา แมวหาพื้นที่อบอุ่นเพื่อนอนหลับและติดอยู่ในเรือนกระจก หรือโรงเก็บของ ชี้ให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังอยู่ในกรงมีความเสี่ยงต่อโรคฮีทสโตรกเนื่องจากการถูกกักขังไว้ในที่พักอาศัยที่มีอากาศร้อน
นักวิจัยกล่าวว่าการค้นพบของพวกเขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตระหนักรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับโรคฮีทสโตรกและความเสี่ยงต่อสัตว์ทุกชนิด และเตือนว่าจำนวนสัตว์ที่ป่วยจะยังคงเพิ่มขึ้นในขณะที่ภาวะโลกร้อนยังคงดำเนินต่อไป