อบจ.ภูเก็ต ทดลองเดินรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) ยกระดับระบบขนส่งสาธารณะ ผลักดันให้ภูเก็ตก้าวสู่การเป็น Smart City อย่างเต็มรูปแบบ 

ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวที่นอกจากเสน่ห์ของหาดสายขาว น้ำใส เมืองเก่าที่สามารถเดินได้ทั้งวัน ความสวยงามทางด้านการท่องเที่ยว แล้วยังมีรสชาติอาหารที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร แต่อีกเรื่องที่ภูเก็ตโดดเด่นไม่แพ้ใครก็คือเรื่องรถติด และค่าเดินทางสาธารณะที่โหดจนขึ้นชื่อ หลายคนเลือกเช่ารถแทนการใช้รถสาธารณะไปแทน แต่หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (พ.ศ. 2568)  การเดินทางในตัวเมืองภูเก็ตจะง่าย และถูกขึ้น 

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้ทดลองเดินรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) 24 คัน แทนที่รถยนต์โดยสารสองแถวไม้ (รถโพถ้อง) ที่จะมาช่วยตอบโจทย์ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหารถติด  อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่นมากขึ้น

จากผลสำรวจสถิติผู้ใช้งานรถโพถ้องในปี 2566 และปี 2567 พบว่ามีผู้ใช้บริการต่อเดือนอยู่ที่ 900-1,000 คน ดังนั้นหากเปลี่ยนรถโพถ้องเดิมมาเป็นรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) ที่สะดวกสบาย และปลอดภัยกว่าเดิม จะสามารถดึงดูดทั้งคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวให้ใช้บริการมากขึ้น ลดการใช้รถส่วนตัว ช่วยแก้ปัญหารถติดได้ ในส่วนรถโพถ้องแบบเดิมนั้นไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่จะส่งมอบให้กับหน่วยงานที่มีความจำเป็นในการใช้รถเพื่อให้บริการประชาชน 

รถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) ที่จะให้บริการในเวลาเดิมคือ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น และในอนาคตจะขยายเวลาตามความต้องการของผู้ใช้บริการ แต่ละคันจะห่างกันประมาณ 20 นาที เส้นทางที่ให้บริการ มี 3 เส้นทาง คือ 

1. สายสะพานหิน - เซ็นทรัลภูเก็ต (7 คัน)

2. สายท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง – ห้างซุปเปอร์ชีป (10 คัน)

3. สายท่าเทียบเรือรัษฎา– สวนน้ำ (7 คัน)

ซึ่งทั้ง 3 เส้นทางนี้ได้ปรับให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ท่าเรือ โรงเรียน ชุมชน ย่านการค้า ย่านเมืองเก่ามากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ทั้งคนภูเก็ต และนักท่องเที่ยว คนไทย และ ต่างชาติ จัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15 บาทตลอดสาย และยกเว้นค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางให้แก่ นักเรียน นักศึกษา ( ในเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา ) พระภิกษุ สามเณร นักบวช คนตาบอด และผู้สูงอายุ

นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและมีความพร้อมสำหรับการพัฒนาสู่ความเป็น “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City) เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมสำหรับการให้บริการ และด้วยเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจากการท่องเที่ยวและการลงทุน ทำให้ประชาชนเข้ามาประกอบอาชีพและอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ในปัจจุบัน ดังนั้น ระบบการขนส่งสาธารณะจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาการจราจรและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต

อบจ.ภูเก็ต ตระหนักถึงปัญหาด้านระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดภูเก็ตที่ยังคงต้องการการปรับปรุงแก้ไข โดยมีแนวคิด    ในการพัฒนาระบบบริการสาธารณะด้านการขนส่งมวลชนในจังหวัดภูเก็ต จึงได้นำโครงการรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) ซึ่งเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาใช้เป็นรถประกอบการขนส่งผู้โดยสารแทนรถยนต์โดยสารสองแถวไม้ (รถโพถ้อง) มุ่งหวังให้ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวเข้าถึงบริการรถสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการบริการรถสาธารณะให้มีความทันสมัย มีการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ช่วยลดปริมาณการใช้รถบนท้องถนน แก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต เกิดการพัฒนาระบบการขนส่งอย่างยั่งยืน ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดภูเก็ต

ในปีนี้นักท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากกว่าช่วงก่อนโรคโควิดระบาดโดยระยะหลังมานี้นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวในตัวเมืองมากขึ้น  ดังนั้น รถ EV BUS จึงตอบโจทย์ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหารถติด  อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่นมากขึ้น คาดว่าปีนี้จะทำรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 5 แสนล้านบาท

สำหรับวันนี้ได้มีการทดลองเดินรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) 21 ที่นั่ง จำนวน 3 คัน โดยวิ่งตามเส้นทางที่จะเปิดให้บริการ สายที่ 1 สะพานหิน – เซ็นทรัลภูเก็ต โดยจะให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา คนพิการ และผู้สูงอายุ ได้ร่วมทดลองนั่งรถ EV BUS ก่อนเปิดให้บริการเดินรถอย่างเป็นทางการ

นายเรวัต  กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) จำนวน 24 คัน คันละ 21 ที่นั่ง เป็นรถคุณภาพสูง ประกอบการขนส่งไม่ก่อให้เกิดอากาศเป็นพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีแอพพลิเคชั่นรวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รองรับการใช้บริการของประชาชนทุกกลุ่มทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ อาทิ มีที่นั่งสำหรับคนพิการ ติดตั้งระบบติดตามยานพาหนะ (GPS) มีช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์ที่บริเวณที่นั่งผู้โดยสารทุกที่นั่ง ติดตั้งกล้องวงจร และApplication Programming Interface สำหรับบริการผู้โดยสารในการดูสถานะและพิกัดของรถโดยสาร และติดตั้งอุปกรณ์พื้นลาดเอียงบริเวณประตูขึ้น-ลง สำหรับเข็นวีลแชร์ เป็นต้น  

“โครงการนำรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV BUS) ของ อบจ.ภูเก็ต มาให้บริการครั้งนี้ จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ยกระดับเมืองภูเก็ตให้ก้าวสู่ Smart City ส่งเสริมภาพลักษณ์ ภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวนานาชาติบนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน” นายเรวัต กล่าวทิ้งท้าย