การตั้งปณิธานปีใหม่ส่วนใหญ่มักจะล้มเหลว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องล้มเหลวเสมอไป และ 1 ในปณิธานที่ดูเป็นไปได้ยากสุดคงเป็นการเลิกแอลกอฮอล์ (หรือสารเสพติด)

หากต้องการฟื้นตัวจากสิ่งเหล่านี้ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมการตั้งปณิธานจึงทำได้ยาก แต่จำไว้ว่าจงซื่อสัตย์กับตัวเอง ตั้งเป้าหมายที่ทำได้ และแสดงความเห็นอกเห็นใจตัวเองตลอดการเดินทางในครั้งนี้ เพราะมีเพียง 9% ของผู้คนเท่านั้นที่ทำตามปณิธานปีใหม่ได้ตลอดทั้งปี

เพื่อไม่ให้รู้สึกต้องท้อแท้กับสถิติเหล่านี้ เรามาทำความเข้าใจว่าทำไมการตั้งปณิธานไม่ใช่เรื่องง่าย สาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้การตั้งปณิธานปีใหม่ล้มเหลวก็คือการตั้งปณิธานที่สูงส่งเกินไป เช่น หากปกติเป็นคนไม่ออกกำลังกายเลย แต่ปีใหม่จะออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมง นั้นอาจกำลังทำให้ตัวเองผิดหวัง การคิดอย่างเป็นรูปธรรม และอยู่บนพื้นฐานของความจริงว่าเราสามารถออกกำลังกายได้มากเพียงใดในแต่ละสัปดาห์ จะช่วยให้วางแผนที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อพูดถึงการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติดอื่นๆ การงดเว้นอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่หลายคนแนะนำ แต่บางครั้ง แนวคิดที่จะไม่ดื่มหรือใช้ยาอีกเลยนั้นดูน่ากลัวมากจนทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือ ถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเราเองเห็นด้วยกับแนวคิดการใช้ชีวิตที่ปราศจากการดื่มหรือไม่ เพราะบางทีคำตอบอาจเป็นไม่ 

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น เราคงอยากรู้ว่าน้ำหนักเราจะลดลงหรือไม่ เมื่อลดการดื่มแอลกอฮอล์ลงแทนละ นอกจากจะมีกำลังใจในการลด ละ เลิกแอลกอฮอล์แล้ว เรายังสามารถขอคำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการดูแลรูปร่าง การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพองค์รวมของเราได้อย่างถูกต้อง ไม่เคร่งครัดและสามารถทำให้เป้าหมายที่เราตั้งไว้สำเร็จอีกด้วย

เมื่อเราสัมผัสได้ถึงประโยชน์ของการลดปริมาณดื่ม ที่ทำให้มีโอกาสสูงที่เป้าหมายที่ตั้งไว้จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นการเลิกสิ่งอื่นตาม เช่น บุหรี่ สารเสพติด หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม คุณอาจพบว่าการเลิกสิ่งเหล่านี้นั้นง่ายกว่า หรืออาจถึงขั้นปลดปล่อยตัวเอง แทนที่จะพยายามลดปริมาณการเสพลง 

อ้างอิงจาก Alcoholics Anonymous กล่าวว่า สำหรับบางคน "การดื่มเพียงแก้วเดียวถือว่ามากเกินไป และดื่มเป็นพันแก้วก็ไม่เพียงพอ" หากคุณพบว่าการตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นไม่ได้ผล ให้เปลี่ยนความตั้งใจและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อเลิกเสพยาอย่างปลอดภัย

แต่หากเกิดการกลับมาใช้แอลกอฮอล์หรือสารอื่นๆ อีกครั้งหลังจากช่วงแรกของการเลิกไปแล้ว โปรดจำไว้ว่าอุปสรรคเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่เป็นการทำนาย หรือทายไว้ล่วงหน้า จำไว้ว่าไม่ใช่ว่าการพลาดพลั้งหรือการกลับมาใช้อีกครั้งในระยะสั้นจะนำไปสู่การกลับมาใช้แบบเดิมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอดีตเรียกว่าการกลับไปเสพซ้ำ คำพูดเช่น "พลาดพลั้ง" และ "กลับมาเสพซ้ำ" การมองว่าตัวเองล้มเหลวในสถานการณ์เช่นนี้อาจนำไปสู่ความนับถือตนเองต่ำ ความละอายใจ และสิ้นหวัง

ในทางกลับกัน ความปรารถนาที่จะหลีกหนีจากอารมณ์ด้านลบเหล่านี้อาจทำให้คุณใช้สารเสพติดต่อไป ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่าวงจรการติดความละอายใจ หรือวงจรความละอายใจ การมองโลกในแง่จริง ใจดีกับตัวเอง และพึ่งพาคนที่คุณรัก จะช่วยให้คุณเริ่มต้นบทใหม่แห่งการฟื้นตัวและสุขภาพที่ดีได้ โดยเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคมหรือวันอื่นๆ ก็ได้