ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซ้ำอัตราเกิดยังลดลง คาดในปี 2573 ประเทศไทยจะต้องการบุคลากรดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในตำแหน่ง “แคร์เมเนเจอร์”
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุและวิทยาการผู้สูงวัย ในงานมหกรรมสุขภาพผู้สูงอายุ ครั้งที่ 5 เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังคนในการดูแลสุขภาพผู้สูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รองรับสังคมสูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ เผยว่าในปี 2573 ประเทศไทยต้องการบุคลากรดูแลสุขภาพผู้สูงอายุถึง 37,000 คน แต่ปัจจุบันยังขาดอีกกว่า 14,000 คน
ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเกิดลดลงและประชากรมีอายุยืนยาวขึ้นจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทำให้จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดเป็น 21% ของประชากรรวม หรือประมาณ 14 ล้านคน ส่งผลให้ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์
ความท้าทายด้านสุขภาพผู้สูงอายุ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเพิ่มจำนวนของผู้สูงอายุส่งผลให้ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่พบในผู้สูงอายุไทยประมาณ 7.5 ล้านคน เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ ซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งยังมีปัญหาอื่น เช่น การมองเห็น สุขภาพช่องปาก การเคลื่อนไหว และปัญหาด้านความคิดความจำ เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว คาดว่าในปี 2573 ประเทศไทยจะต้องการบุคลากรดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในตำแหน่ง “แคร์เมเนเจอร์”
แผนการพัฒนาสังคมสูงอายุอย่างยั่งยืน
นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมนโยบายและมาตรการรับมือการเข้าสู่สังคมสูงอายุ เช่น การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ส่งเสริมการออม การสร้างอาชีพ การปรับสภาพแวดล้อม และที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม โดยมุ่งเน้น “การบูรณาการทุกมิติ… เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของผู้สูงอายุ” เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถช่วยเหลือตนเองได้และมีความสุขในทุกบริบทของชีวิต
การประชุมวิชาการเพื่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากร
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเสริมว่า การประชุมวิชาการครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และวิทยาการด้านผู้สูงอายุ โดยมีวิทยากรทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 คน รวมถึงการจัดนิทรรศการด้านวิชาการและการให้บริการประชาชนจากกว่า 40 องค์กร ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันพัฒนาสังคมสูงอายุไทยอย่างมีคุณภาพ