Ember Cafe & Wine คือจุดหมายใหม่สำหรับสายกินและสายเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ ทั้งอาหารรสเลิศ ไวน์ชั้นเยี่ยม และสถาปัตยกรรมสุดล้ำ

Ember Cafe & Wine ตัวร้านโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี SCG 3D Printing ที่ผสมผสานดีไซน์โค้งเว้าสุดล้ำกับบรรยากาศราวกับจำลองแกรนด์แคนยอนมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ

จุดเด่นของร้านคือเมนูอาหารสไตล์เวสเทิร์นที่ใช้เทคนิค Flame-cooked ซึ่งช่วยดึงรสชาติและกลิ่นหอมของวัตถุดิบออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับไวน์ที่คัดสรรมาจากแหล่งผลิตใกล้ภูเขาไฟ ทำให้ได้ไวน์ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ด้วยแร่ธาตุในดินภูเขาไฟที่ช่วยเพิ่มมิติของรสสัมผัสให้กลมกล่อมและลึกซึ้งขึ้น

Calvin Fong ผู้เป็นทั้งเชฟและหุ้นส่วนร้านเผยว่า ความหลงใหลในอาหารและไวน์คือแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้เขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อศึกษาวัตถุดิบและเทคนิคการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะการใช้ไฟซึ่งเป็นเสน่ห์ของการทำอาหารมาตั้งแต่ยุคโบราณ ทุกจานที่เสิร์ฟจึงผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงศิลปะของการใช้ไฟควบคุมรสชาติ

ไฮไลต์ของ Ember Cafe & Wine ไม่ใช่แค่อาหารและไวน์ แต่ยังรวมถึงบรรยากาศและการออกแบบที่สร้างสรรค์จากนวัตกรรม SCG 3D Printing นอกจากช่วยลดเศษวัสดุจากการก่อสร้างและลดคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังช่วยรักษาอุณหภูมิภายในร้านให้เย็นกว่าภายนอก 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเก็บรักษาไวน์ให้คงรสชาติที่ดีที่สุด

ด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ Ember เป็นมากกว่าคาเฟ่และร้านไวน์ ร้านจึงถูกออกแบบให้เป็น Community Space สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมอาหารและไวน์ ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมเวิร์กช็อปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ นอกจากนี้ โลโก้ของร้านยังสะท้อนตัวตนของแบรนด์ ด้วยตัวอักษร M ที่ออกแบบให้คล้ายรูปภูเขาไฟ สื่อถึงเอกลักษณ์ของร้านได้อย่างลงตัว

Ember Cafe & Wine ตั้งอยู่ในซอยพระรามเก้า 43 เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) เวลา 11.00 - 18.00 น. สำหรับผู้ที่ต้องการจองโต๊ะไพรเวท สามารถสำรองที่นั่งผ่าน Instagram @ember.bangkok