ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย สนับสนุนการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ร่วมมือกับกรมควบคุมโรค กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก
ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยร่วมส่งเสริมการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ผ่านชุดตรวจ Urine LAM ซึ่งสามารถหาแอนติเจนของเชื้อวัณโรคในปัสสาวะ ทำให้ช่วยวินิจฉัยโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น การดำเนินงานนี้เป็นความร่วมมือกับกรมควบคุมโรค และกองทุนโลก เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง ฟูจิฟิล์มได้บริจาคชุดตรวจ Urine LAM จำนวน 300 ชุด โดย 200 ชุด มอบให้กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอีก 100 ชุด มอบให้สถาบันบำราศนราดูร โครงการนี้จัดขึ้นที่กรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรคในประเทศไทย
ปัจจุบัน วัณโรคยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้ที่มีเชื้อ HIV เนื่องจากหลายคนเข้าถึงการรักษาล่าช้า ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้วัณโรคลุกลามได้ง่าย การตรวจคัดกรองที่รวดเร็วและแม่นยำจึงเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยลดอัตราการเสียชีวิต
ผู้เชี่ยวชาญย้ำความสำคัญของ Urine LAM ในการตรวจคัดกรองวัณโรคในผู้ป่วย HIV
นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยข้อมูลว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่ 9,200 คน และมีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ 12,072 คน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากวัณโรค ผู้ที่มีเชื้อ HIV มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นวัณโรคมากกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า อีกทั้งการตรวจวัณโรคในผู้ป่วย HIV มีอุปสรรค เพราะอาจไม่พบความผิดปกติจากการเอกซเรย์ปอด ดังนั้นชุดตรวจ Urine LAM ซึ่งสามารถตรวจหาแอนติเจนของวัณโรคในปัสสาวะ และให้ผลได้รวดเร็ว จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยตัดวงจรการแพร่ระบาดของวัณโรค
นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อธิบายว่า ผู้ที่มีเชื้อ HIV บางรายมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้การตรวจวัณโรคด้วยวิธีปกติ เช่น เอกซเรย์ทรวงอก หรือการตรวจเสมหะ อาจให้ผลคลาดเคลื่อนหรือไม่สามารถตรวจพบเชื้อได้ แต่ชุดตรวจ Urine LAM ซึ่งใช้ปัสสาวะเป็นตัวอย่างตรวจ ทำให้เพิ่มความแม่นยำและครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงสูง
แพทย์หญิงผลิน กมลวัทน์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กล่าวว่าสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลกได้เข้ามาช่วยเหลือประเทศไทยกว่า 26 ปี เพื่อจัดการปัญหาโรคเอดส์ วัณโรค และไข้มาลาเรีย โดยปัจจุบันยังคงดำเนินโครงการ END TB เพื่อคัดกรองวัณโรคให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงสูง โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อ HIV ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ กองทุนโลกยังสนับสนุนการเข้าถึงการตรวจวัณโรคด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว ลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ที่มีเชื้อ HIV
นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ โฆษกกรมควบคุมโรค ระบุว่าวัณโรคเป็นสาเหตุการเสียชีวิตหลักในผู้ที่มีเชื้อ HIV เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันลดลง วัณโรคที่เคยแฝงอยู่ในร่างกายอาจกลับมาแสดงอาการและแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ นอกปอด เช่น เยื่อหุ้มปอด ช่องท้อง ต่อมน้ำเหลือง หรือไขกระดูก ซึ่งทำให้การวินิจฉัยซับซ้อนขึ้น
โดยปกติ การวินิจฉัยวัณโรคใช้วิธีตรวจเสมหะหรือเอกซเรย์ปอด แต่ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก เช่น ผู้ที่มีเชื้อ HIV เชื้อวัณโรคมักแพร่กระจายนอกปอด ทำให้โอกาสตรวจพบเชื้อในเสมหะลดลง ปัจจุบันมีการใช้สาร lipoarabinomannan (LAM) ในการตรวจปัสสาวะ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบเชื้อวัณโรคได้ดีขึ้น
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ข้อบ่งใช้ในการตรวจหาเชื้อวัณโรคด้วย Urine LAM ในผู้ที่มีเชื้อ HIV มี 3 กรณีหลัก ได้แก่
1. กรณีสงสัยว่าเป็นวัณโรคหรือมีอาการของวัณโรค สามารถใช้ Urine LAM ประกอบการวินิจฉัย
2. ผู้ป่วยที่มีเชื้อ HIV และมีอาการป่วยรุนแรง เช่น ไข้สูง หายใจเหนื่อย หรือชีพจรเต้นผิดปกติ สามารถตรวจด้วย Urine LAM
3. ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรง แต่มีปริมาณเม็ดเ ลือดขาว CD4 ต่ำกว่า 100 เซลล์ สามารถตรวจด้วย Urine LAM ได้
ฟูจิฟิล์มตอกย้ำความมุ่งมั่นในการช่วยยุติวัณโรคในไทย
นวัตกรรมชุดตรวจ Urine LAM โดยฟูจิฟิล์ม ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ตรวจพบวัณโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต
มร. โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฟูจิฟิล์มมุ่งมั่นที่จะยกระดับการรับรู้ของสังคมเกี่ยวกับวัณโรค พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยโรคเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยฟูจิฟิล์มรู้สึกยินดีที่ได้สนับสนุนโครงการ END TB ผ่านนวัตกรรมชุดตรวจ Urine LAM ซึ่งช่วยให้การตรวจวัณโรคในผู้ที่มีเชื้อ HIV มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของฟูจิฟิล์มในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมไทย
ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมในด้านสาธารณสุข ผ่านการพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้การวินิจฉัยโรคมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมร่วมขับเคลื่อนภารกิจยุติวัณโรคของประเทศไทยภายในปี 2030