วิกฤตพัฒนาการเด็ก! งานวิจัยเผย เด็กไทยกว่าครึ่งมีปัญหาด้านภาษาและสติปัญญา หนองบัวลำภูเร่งแก้ด้วยแนวคิด ‘เล่นอิสระ’ เสริมทักษะชีวิต ลดพฤติกรรมติดจอ
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย จังหวัดหนองบัวลำภู กำลังมีความพยายามร่วมกันจากหลายภาคส่วนในการตอบสนองต่อปัญหาพัฒนาการของเด็กไทยที่พบว่ามีความล่าช้าในด้านการใช้ภาษาและความเข้าใจภาษา โดยจากการประเมินของสถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ (กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข) พบว่าเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการล่าช้าด้านการใช้ภาษาสูงถึง 74.8% และด้านความเข้าใจภาษาร้อยละ 60.9% ขณะที่ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญาล่าช้า 44.6% และด้านการเคลื่อนไหวล่าช้า 28.2%
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กไทยมีหลายประการ เช่น การขาดโอกาสเล่นและเรียนรู้อย่างอิสระ การใช้หน้าจอมากเกินไป พฤติกรรมการเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา ทั้งนี้ รายงานยังระบุว่า เด็กที่ขาดการเล่นอิสระมักมีปัญหาด้านอารมณ์ สมาธิสั้น และขาดทักษะการเข้าสังคม ซึ่งอาจส่งผลต่อการเรียนรู้และพฤติกรรมในระยะยาว
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมมือกับเครือข่าย “เล่นเปลี่ยนโลก” และเครือข่าย “Happy Play หนองบัวลำภู” ในการจัดงานมหกรรม “Happy play หนองบัวลำภู เมืองเล่นอิสระสร้างสุข” โดยมีแนวคิด “เด็กยิ่งเล่นยิ่งสนุก มีความสุขและฉลาด” ซึ่งมุ่งเน้นการเปิดพื้นที่สาธารณะให้เด็กและครอบครัวได้ออกมาเล่นอิสระ สร้างประสบการณ์เรียนรู้และพัฒนาทักษะชีวิตที่จำเป็น งานเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
- ส่งเสริมการเล่นอิสระของเด็กในวัยปฐมวัยและประถมศึกษา
- ลดเวลาการใช้หน้าจอและช่วยเพิ่มทักษะในการจัดการอารมณ์
- สร้างประสบการณ์และพื้นที่แห่งความสุขให้กับครอบครัวและชุมชน
นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เผยว่า จังหวัดจะนำโมเดล “เล่นอิสระ” ขยายผลสู่พื้นที่ชุมชนและโรงเรียน โดยเริ่มบูรณาการเข้ากับแผนการเรียนรู้ในเขตพื้นที่ประถมศึกษา ภายในปีการศึกษาถัดไป โดยมีคณะผู้บริหารสถานศึกษาและองค์กรท้องถิ่นเป็นหัวหน้าทีมในการวางแผนและขับเคลื่อนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ “5 สุข 5 สร้างสรรค์”
นอกจากนี้ น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สสส. ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเล่นอิสระที่ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของเด็ก แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเรียนรู้ในเด็กกลุ่มเปราะบางอีกด้วย โดยในโครงการต้นแบบที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ 20 แห่ง พบว่าเด็กปฐมวัยและเด็กประถมศึกษามีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งพัฒนาทักษะการจัดการอารมณ์และลดการใช้หน้าจอมือถือ
งานมหกรรมในครั้งนี้แบ่งเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่
- โซนลานเล่นอิสระ สร้างสุข: จัดแสดงเครื่องเล่นที่ออกแบบโดยชุมชน ส่งเสริมให้เด็กได้เล่นอิสระและมีความสุข
- โซนลานเล่นวันวาน: นำเสนอวิถีชีวิตและเครื่องเล่นชุมชนต้นแบบจากพื้นที่ต่าง ๆ
- โซน Happy Sport Play: กระตุ้นให้เด็กได้ออกกำลังกายผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น คลินิกเทควันโด แข่งฟุตบอล 3x3 และเล่นโรลเลอร์สกี
- โซนเวทีสื่อสร้างสรรค์: เปิดเวทีสำหรับแสดงวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับคุณค่าของการเล่นอิสระ
น.ส.ประสพสุข โบราณมูล ผู้ประสานงานเครือข่าย “เล่นเปลี่ยนโลก” และมูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเล่นอิสระ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะต่าง ๆ ตามวัยเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดและฟื้นฟูเด็กและครอบครัวที่เผชิญกับความรุนแรง
ด้วยผลสำเร็จจากโครงการในครั้งนี้ ภาครัฐและภาคีเครือข่ายมีแผนที่จะขยายพื้นที่ต้นแบบการเล่นอิสระเพิ่มเป็น 50 พื้นที่ ครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดหนองบัวลำภู ภายในปี 2568 โดยคาดว่าจะเป็นต้นแบบ “เมืองเล่นอิสระสร้างสุข” ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็ก ครู ผู้ปกครอง และชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ที่ดีสมวัยสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาหรือรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดล “เล่นอิสระ”สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.letsplaymore.org