“ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด” เมื่อจิตใจคือป่าที่อันตรายที่สุด

“ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด” เมื่อจิตใจคือป่าที่อันตรายที่สุด
ร่วมจิตหลุด เสียสติ วิ่งป่าราบไปกับ “ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด” ล้วงลึกอาถรรพ์ของป่า และมองให้ทะลุเข้าไปถึงจิตใจของตัวละคร

ป่าฮาลาบาลา พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของไทย ที่ประกอบด้วยผืนป่าสองผืน คือ ป่าฮาลา ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และ ป่าบาลา ในพื้นที่อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าหายากอยู่หลายชนิด ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าจึงทำให้เป็นที่พักพิงของคนป่าที่ยังคงใช้ป่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย รวมถึงพวก “บาเตาะ” หรือเผ่ากินคน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรมกล่าวถึงบาเตาะว่า ในความหมายของคนในชุมชนหมายถึง คนเถื่อน คนใจดําอํามหิต ส่วนความหมายทั่วไป หมายถึงคนป่า คนพื้นถิ่น บาเตาะยังมีความหมายเช่นเดียวกับบาตัก (Batak) ซึ่งหมายถึงเผ่าพันธุ์หนึ่งบนคาบสมุทรมลายู รวมถึงอินโดนีเซีย ซึ่งออกสําเนียงเป็นภาษามลายูถิ่นว่า “บาเตาะ” กลุ่มบาตักที่ยังคงรักษาวิถีดั้งเดิมไว้บ้าง โดยเฉพาะเกาะซาโมซีกลางทะสาบโตบา ที่มีตํานานเรื่องเล่าบาตัก คนกินเนื้อคน 

บาเตาะที่ปรากฏเป็นเรื่องเล่าในป่าฮาลา บาลา มีลักษณะนิสัย รูปพรรณสัณฐานคือ ชอบดนตรี กินเนื้อสัตว์ แต่ก่อนชอบกินเนื้อคน มีหาง แต่ภายหลังหดหายหมดแล้ว เหลือเพียงติ่งเนื้อ และยอมรับว่าตนเองก็มีติ่งเนื้ออยู่บริเวณก้นกบ เรื่องราวของบาเตาะที่กล่าวถึงการชอบกินเนื้อคนในป่าฮาลา บาลา เริ่มตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบชัดเจน แต่มีการกล่าวถึงบาเตาะบ้างในตํานานมะโย่ง ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยสภาพป่าดังนั้นการเข้าไปในฮาลาบาลา จึงมีทั้งความน่ากลัวจากธรรมชาติ และจากเผ่าคนป่า

จิตหลุด เดาทางไม่ออก หาทางกลับไม่ได้

ด้วยเสน่ห์ และความลึกลับของป่าฮาลาบา ‘เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์’ จาก 13 เกมสยอง, บอดี้ศพ 19 ที่ครั้งนี้กลับมาเสิร์ฟความสยองตลอด 1 ชั่วโมงกว่าในรูปแบบใหม่ แต่การันตีความดาร์กที่เพิ่มความจิตหลุด เดาทางไม่ออก หากคิดว่าสามารถเดาทางเรื่องได้ตั้งแต่ดูตัวอย่างแล้วละก็ ขอให้สลัดทิ้งได้เลย เพราะไม่มีทางที่จะเดาได้ นอกจากความอกสั่นขวัญหนีของปีศาจแห่งฮาลาบาลาแล้ว “สารวัตรแดน” (เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ยังต้องเจอกับความกดดัน อึดอัดการเล่นกับจิตใจของคน ยิ่งทำให้การตัดสินใจเข้าป่าเพื่อจับตัวนักโทษแหกคุก “ตั๊บตาไฟ” (อานนท์ สายแสงจันทร์) ในครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตสารวัตรแดนตลอดไป แต่จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีหรือร้ายนั้นต้องเข้าไปลุ้นกันในโรงภาพยนตร์

นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจชวนให้ติดตามแล้วนั้น การแสดงของนักแสดงทุกคนในเรื่องยังดีจนทำให้เราอิน และขนลุกได้โดยเฉพาะ ณิชา - ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ที่พลิกจากสาวหวานมารับบท "วิ" หญิงสาวที่ต้องเผชิญหน้ากับ เรื่องราวเหนือธรรมชาติ เปลี่ยนจากภาพจำเดิมๆ สู่บทบาทที่ลึกซึ้งและท้าทายขึ้น

ทำไมการ ‘เข้าป่า’ จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

ปกตินั้นกฎข้อห้ามทั่วๆ ไปของการเข้าป่าเช่น การไม่ทำร้าย ทำลายธรรมชาติ ไม่แทรกแซงโครงสร้างหรือระบบนิเวศ และ ไม่นำเอาสิ่งของติดตัวเข้าไปในป่ามากไป เช่นสารเคมีจากแชมพู ยาสระผม ขยะ หรือแม้กระทั้งการก่อกองไฟ และการไม่นำสิ่งใดๆ ออกจากป่าแล้วนั้น กฎข้อห้ามที่เฉพาะเจาะจงยิ่งกว่าเช่น  เห็นอะไรก็ห้ามทัก ได้ยินใครเรียกก็ห้ามตอบ ห้ามหันไปมอง รวมทั้งอาถรรพ์ของป่าที่มีทั้งดีและร้าย แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคนที่เข้าไป ก่อนเข้าป่ายังมีการทำพิธีเปิดป่า บางที่อาจจะแค่การไหว้ขอเพื่อเดินระยะสั้น ไม่ได้มีการค้างคืน แต่สำหรับการเดินในระยะยาวที่มีการต้องพักค้างแรมอาจจะต้องมีการทำพิธีขอเจ้าป่าเจ้าเขาเพื่อที่จะเข้าไปได้ ตัวภาพยนตร์ได้เผยพิธีการผ่าน “พรานดำ” (ปู ยะสะกะ) โดยใช้การจุดธูป 1 ดอกเพื่อถามเข้าป่าได้หรือไม่ เพราะถ้าป่าไม่อนุญาต ก็อย่าเข้าไปเด็ดขาด

จิตใจที่ไม่สามารถหาทางหลุดพ้นได้

นอกจากความน่ากลัวของป่า อีกหนึ่งความน่ากลัวที่แท้จริงคือ “จิตใจ” ตัวละครสารวัตรแดนได้แสดงออกถึงความผิดปกติทั้งจากการตัดสินใจทำเรื่องต่างๆ อย่างหุนหันพลันแล่น หรือการต้องพกยาติดตัวไว้ตลอด รวมทั้งเรื่องราวในวัยเด็กที่ทำให้ส่งผลต่อการตัดสินใจในการทำงานปัจจุบัน การอยากเข้าป่าเพื่อจับตัวนักโทษแหกคุกนั้นไม่ใช่ทำเพื่อครอบครัวให้ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมเท่านั้น แต่ยังทำไปเพื่อตอบสนองความต้องการภายในจิตใจอีกด้วย ความเครียดที่เกิดจากงาน และเกิดจากเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจมาเป็นเวลานานที่ทำให้อารมณ์แปรปรวน อารมณ์ร้าย หรือมีอาการซึมเศร้า โดยในจิตใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หดหู่ ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย และยิ่งการอยู่ในสถานที่ๆ ทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างป่านั้น ยิ่งทำให้อาการเหล่านี้เป็นหนักขึ้น

‘เต๋อ-ฉันทวิชช์’ ที่กลับคืนสู่จอยักษ์กับ แนว Action Horror ในรอบ 17 ปี และ ‘ณิชา-ณัฏฐณิชา’ ที่สลัดคราบนักแสดงอ่อนหวานมาพลิกบทสุดท้าทายในผลงานภาพยนตร์ที่ดาร์กและลึกลับที่สุดในชีวิต เสริมทัพด้วย ‘ปู แบล็คเฮด’ หรือ ‘อานนท์ สายแสงจันทร์’ ที่เป็นตัวละครสำคัญของเรื่องและอีกหนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้เลย คือ ‘ปู-ยะสะกะ ไชยสร’ ที่จะมาสร้างความหลอนแบบทวีคูณ 

นอกจากทีมนักแสดงระดับแถวหน้าแล้ว ยังมาพร้อมกับโปรดักชันสุดท้าทายของ BrandThink Cinema และการกำกับของ ‘เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์’ นักเขียนบทชื่อดังที่ฝากผลงานมาแล้วมากมาย ที่จะมาร่วมสร้างความหลอนกันใน ‘ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด’ 

‘ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด’ ยังสร้างปรากฏการณ์ ‘จิตหลุด’ ที่จะเตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 20 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, อินเดีย, เวียดนาม, มาเลเซีย และกัมพูชา เป็นต้น ผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกต่างพร้อมใจกันซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ไปฉายในประเทศของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย โดยจะเริ่มฉายที่สิงคโปร์เป็นประเทศแรก ในวันที่ 17 เมษายนนี้

TAGS: #Halabala #ฮาลาบาลา #ป่าจิตหลุด