"โพรไบโอติก..ลดสิวอักเสบแบบไม่ต้องพึ่งยา"

โพรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ตัวดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่ออวัยวะในร่างกาย ปัจจุบันค้นพบว่าโพรไบโอติกสามารถไปช่วยยับยั้งการเกิดสิวอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"โพรไบโอติก..ลดสิวอักเสบแบบไม่ต้องพึ่งยา"

สิวอักเสบ (Inflammatory Ance) 

การเกิดสิวอักเสบมีหลากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า C.acne ไปเจริญเติบโตอยู่ในตุ่มสิว โดยที่ C.acne สร้างเอนไซม์ไลเปสซึ่งสามารถย่อยไขมันจนเกิดเป็นกรดไขมัน (free fatty acid) ออกมาข้างนอกบริเวณผิวหนัง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบโดยการดึงเม็ดเลือดขาวเข้ามาในตุ่มสิว และ C.acne ยังกระตุ้นให้มีการหลั่ง protease cytokines ที่ทำให้เกิดการอักเสบเช่นเดียวกัน นอกจากเชื้อแบคทีเรีย C.acne ที่ทำให้เกิดสิวอักเสบแล้วนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย คือ

  1. ฮอร์โมน ปริมาณฮอร์โมนที่ไม่สมดุลภายในร่างกายก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ เช่น ช่วงวัยรุ่นร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย (Androgens) มากขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นต่อมไขมันจะทำให้ผลิตน้ำมันมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดความมันบนใบหน้าเพิ่มขึ้น ก็เป็น สาเหตุการเกิดสิวอักเสบเช่นกัน

 

  1. การบีบสิว ปัจจัยนี้อาจจะยากต่อการห้ามใจของใครหลายๆ คน เพราะสิวนั้น คือ สิ่งที่รบกวนจิตใจและสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ที่มีสิวขึ้นบนใบหน้า ทำให้อดไม่ได้ที่จะใช้มือจับ ลูบ แคะ แกะ กด บีบสิวเอง การกระทำเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ควร จึงเป็นข้อห้ามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังแนะนำว่า ห้ามทำเด็ดขาด เพราะ ถึงสิวจะหลุดออกมาได้ แน่นอนว่าจะมีการบาดเจ็บของรูขุมขน นอกจากนี้ยังสิ่งสกปรก เช่น เชื้อโรค จากมือเราหรืออุปกรณ์ที่ใช้บีบสิวที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เป็นบ่อเกิดให้เกิดการอักเสบเกิดขึ้นได้ จากสิวอุดตันธรรมดา ก็อาจจะกลายเป็นสิวอักเสบได้ การบีบสิวควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

  2. Lifestyle เช่น การรับประทานอาหารไขมันสูง นอนพักผ่อนไม่เพียง ความเครียดสะสมจากการทำงาน มลพิษทางอากาศ การทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่ถูกวิธี หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงและรักษาสิวบางตัว

  3. การใช้ยาบางชนิด ที่มีส่วนผสมของ anabolic steroids, corticosteroids, corticotropin, phenytoin, lithium, isoniazid, vitamin B6 B12, สารประกอบ halogenated และ ยาเคมีบำบัดบางชนิด ก็มีส่วนก่อให้เกิดสิวอักเสบได้

 

ประเภทของสิวอักเสบ 

สิวอักเสบสามารถแบ่งตามความรุนแรงและขนาดของตุ่มสิวอักเสบได้ 3 ประเภท ดังนี้ 

 

  1. สิวตุ่มแดง (Papule) เป็นสิวอักเสบที่อาจจะเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรียผสมกับการอุดตันของรูขุมขน หรือพัฒนาจากสิวอุดตันที่ถูกรบกวนจากการสัมผัส กด บีบ แคะ หรือ แกะ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในรูขุมขนที่กำลังเป็นสิวอุดตัน ทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด จะมีลักษณะเป็นสิวแดง กลม ขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 ซม. ไม่มีหัวหรือหนอง รู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัส 

  1. สิวหัวหนอง (Pustule) สาเหตุการเกิดสิวหัวหนองเหมือนกับสิวตุ่มแดง แต่สิวหัวหนองต้องเกิดการติดเชื้อไปสักระยะหนึ่ง จนหนองก่อตัวขึ้นมาที่ใต้ผิวหนัง ลักษณะของสิวหัวหนอง มีลักษณะเป็นตุ่มสิวแดง ตรงกลางจะมีจุดสีขาวเหลือง ซึ่งคือหนองที่เกิดภายใต้ผิวหนังนั้นเอง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย 

  1. สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ / สิวหัวช้าง / สิวไต  เป็นสิวที่มีการอักเสบที่รุนแรง โดยสาเหตุของการเกิด สิวหัวช้าง มาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ลุกลามเข้าไปถึงชั้นผิวหนังที่ลึกขึ้น ทำให้กลายเป็นสิวหัวช้างที่มีการอักเสบรุนแรง สามารถลุกลามให้เกิดการอักเสบได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหัวสิว ลักษณะจะมีตุ่มนูนขนาดใหญ่ เวลาสังเกตหรือสัมผัสจะรู้สึกว่ามีก้อนขนาดใหญ่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อสัมผัสผิวหนังบริเวณที่อักเสบจะรู้สึกแข็ง รู้สึกเจ็บปวดมาก โดยปกติแล้วสิวหัวช้างมักจะขึ้นเม็ดเดียวโดด ๆ แต่ถ้ามีการติดเชื้อรุนแรง เชื้อแบคทีเรียภายใต้ผิวหนังอาจจะกระจายตัวและทำให้เกิดสิวหัวช้างขึ้นในบริเวณที่ใกล้เคียงกันได้

วิธีรักษาสิวอักเสบ ลดสิวอักเสบ มีอะไรบ้าง

ปัจจุบันการรักษาสิวอักเสบ มีหลายวิธีการรักษา ตามอาการและความรุนแรงของการอักเสบ 

  1. การติดแผ่นดูดสิว วิธีนี้เหมาะสำหรับสิวอักเสบที่เกิดบริเวณผิวหนังชั้นบนเท่านั้น ถ้าการอักเสบอยู่ลึกลงไป อย่างสิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (nodule) แผ่นดูดสิวจะไม่สามารถรักษาได้ การแปะแผ่นดูดสิวเป็นวิธีรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถช่วยรักษาสิวหนองโดยการดูดเอาหนองออกมาได้ภายในเวลาไม่นาน หลักการทำงานของแผ่นดูดสิวหรือแผ่นซับสิวนี้ คือแผ่นดังกล่าวจะดึงน้ำ ของเหลว และไขมันส่วนเกินออกมาจากสิวอักเสบ ทำให้สิวหัวหนองแห้งง่ายขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับยาจะทำให้หายอักเสบได้ไวขึ้น 

  2. ปรับพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบ 

  • เช่น การล้างหน้า ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ 2 ครั้งต่อวัน การล้างหน้าควรทำตามแนวรูขุมขน และไม่ควรขัดหน้าอย่างรุนแรงเพราะจะทำให้ผิวใบหน้าแห้ง เมื่อผิวหน้าแห้งต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากกว่าเดิม ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย และเป็นสาเหตุการเกิดสิว  

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น เพราะมือเป็นแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก จึงไม่ควรสัมผัสบริเวณใบหน้าหรือบริเวณที่เป็นสิว 

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม และพาราเบนผสมอยู่ 

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เพื่อควบคุมระดับฮอร์โมน 

  • หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และอาหารที่มีน้ำตาลมาก

  1. ใช้ยาแก้สิวอักเสบ ยาแก้สิวอักเสบ คือ ยาที่สารหรือกรดบางอย่างที่ช่วยฆ่าเชื้อสิว หรือควบคุมการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ ปัจจุบันยาแก้สิวอักเสบมีทั้งแบบยาทา เช่น เตรติโนอิน (Tretinoin) อะดาพาลีน (Adapalene) เบนโซลอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide)  กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) และแบบยาทาน เช่น ด็อกซีไซคลีน (Doxycycline) เซฟาเลกซิน (Cephalexin) ไอโสเตรตินอย (Isotretinoin) ยาคุมกำเนิด ทั้งนี้การใช้ยาชนิดต่างๆ เพื่อรักษาสิว ควรต้องปรึกษากับแพทย์และให้แพทย์เป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น จึงจะสามารถใช้ได้ เพราะยาทุกชนิดมีผลข้างเคียง

  2. ทานโพรไบโอติก โพรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ตัวดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่ออวัยวะในร่างกาย ปัจจุบันค้นพบว่าโพรไบโอติกสามารถไปช่วยยับยั้งการเกิดสิวอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2021 มีงานวิจัยที่ทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัครผู้ที่มีอาการสิวอักเสบพบว่าโพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย Lactobacillus paracasei MSMC 39-1 สามารถช่วยยับยั้งการเกิดการอักเสบของสิว และช่วยบรรเทาให้สิวอักเสบเบาบางลงได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่สำคัญคือไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจากโพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย Lactobacillus paracasei MSMC 39-1 ผ่านการวิจัยมาเรียบร้อยแล้วว่ามีความสามารถในการลดระดับของ TNF-alpha ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่ง TNF-alpha เป็นไซโตไคน์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ นอกเหนือจากช่วยเรื่องลดการอักเสบ โพรไบโอติกยังสามารถช่วยผ่อนคลาย และช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นได้อีกด้วย

ดังนั้น หากเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกเพื่อลดสิวอักเสบ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโพรไบโอติกที่มีคุณภาพและความสามารถในการลดการอักเสบได้ L. paracasei MSMC39-1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นที่คัดแยกพัฒนาและทดสอบในกลุ่มประชากรไทย จึงเหมาะกับสภาวะคนไทยมากที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่ดีมากเป็นโพรไบโอติกแบบเชื้อเป็น เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ในรูปแบบของแคปซูลที่พร้อมเข้าไปเติบโตยึดเกาะที่ผนังของลำไส้ ช่วยในการปรับระบบองค์รวมของสุขภาพได้ทันที

นางนพรัตน์ สุขสราญฤดี 

ผู้ก่อตั้ง บริษัท วิโนน่า เฟมินิน จำกัด

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก

  1. Sathikulpakdee S, Kanokrungsee S, Vitheejongjaroen P, Kamanamool N, Udompataikul M, Taweechotipatr M. Efficacy of probiotic-derived lotion from Lactobacillus paracasei MSMC 39-1 in mild to moderate acne vulgaris, randomized controlled trial. J Cosmet Dermatol. 2022 Oct;21(10):5092-5097. 

  2. Goh, C., Cheng, C., Agak, G., Zaenglein, A.L., Graber, E.M., Thiboutot, D.M., & Kim, J. (n.d.). Acneiform Disorders. Fitzpatrick’s Dermatology 9 TH Edition (1391-1404). McGraw-Hill Education.

  3. มนตรี อุดมเพทายกุล. (n.d.). Acne Vulgaris. http://www.thaipediatrics.org/Media/media-20180403103621.pdf

  4. เว็บไซต์ http://www.sure.su.ac.th/xmlui/bitstream/id/dc67fa8a-8f0c-4501-9430-be28f709a100/Fulltext.pdf?attempt=2

  5. เว็บไซต์ https://skinx.app/content/acne/inflamed-acne

  6. เว็บไซต์ https://www.vsquareclinic.com/tips/inflamed-acne/

  7. https://winonaprobio.com/%e0%b9%82%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%9a%e0%b9%82%e0%b8%ad%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%81-%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%9a/

TAGS: #โพรไบโอติกส์ #วิโนน่า #winona #winonaprobio #สิวอักเสบ #โปรไบโอ