จดลิสต์ 15 ภาพยนตร์รักไม่สมหวัง แต่ไม่จำเป็นต้องร้องไห้เสียใจเพียงอย่างเดียว

ตอกย้ำความเศร้ากับหนังอกหัก ที่พาเราสำรวจความรักที่ผ่านมา แต่ค้นหาตัวเองเพื่อต้อนรับความรักครั้งใหม่ หยิบยกแง่มุม เข้าใจความเจ็บปวดของตัวละครผ่าน 15 ภาพยนตร์ผิดหวังกับความรักที่มีดีกว่าแค่ความเศร้า

1. La La Land
ภาพยนตร์ปี 2016 นำแสดงโดยเอ็มมา สโตน และไรอัน กอสลิง เรื่องราวความรักที่ติดตามคนสองคนที่ตกหลุมรักกันเมื่อความฝันของพวกเขาที่จะได้ดังในฮอลลีวูดเริ่มเป็นจริง การตัดสินใจเลือกระหว่างการทำตามความฝันของพวกเขาและ การมีกันและกันนั้นยากกว่าที่คิด ฉากจบของเรื่องจึงเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ได้ หากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดในชีวิตจริง

2. Call Me By Your Name
เตรียมพร้อมที่จะร้องไห้ให้น้ำตาเป็นเลือดกับเรื่องราวความรักอันน่าทึ่ง ภาพยนตร์โดย ลูก้า กัวดาญิโน บอกเล่าเรื่องราวของเอลิโอ (ทิโมธี ชาลาเมต์) วัย 17 ปี และโอลิเวอร์ (อาร์มี แฮมเมอร์) ผู้เป็นนักศึกษาปริญญาเอกชาวอเมริกันที่มาทำงานให้พ่อของเอลิโอ ขณะที่พวกเขาใช้เวลาร่วมกัน และได้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งเกือบจะสวยงามพอๆ กับฉากหลังของเมืองอิตาลี และงดงามไปกับฉากพ่อเรียกเอลิโอมานั่งคุยกันเปิดใจกัน

3. 500 Days of Summer
หนังรักอกหักติดทุกโพลนำแสดงโดยโจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์และซูอี้ เดสชาเนล เรื่องรางของกอร์ดอน-เลวิตต์ในขณะที่เขานึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองมีร่วมกันหลังจากถูกทิ้ง ในฐานะที่เป็นคนโรแมนติกที่สิ้นหวัง เขาอกหักแต่สามารถค้นพบความรักและความสุขของเขาอีกครั้งหลังจากมองย้อนกลับไปที่ความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ที่เศร้า แต่ท้ายที่สุดก็หวาน

4. Blue Valentine
ภาพยนตร์ปี 2010 บอกเล่าเรื่องราวของการแต่งงานที่พังทลายระหว่างดีน (ไรอัน กอสลิง) และซินดี้ (มิเชล วิลเลียมส์) เมื่อ ซินดี้ กำลังมีชีวิตที่ดีและก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ ดีน กลับย่ำอยู่ที่เดิม และเขากำลังรับไม่ได้ที่ ซินดี้ กำลังจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เขาไม่มีสิ่งนั้น

5. He's Just Not That Into You
เรื่องราวความรักผ่านมุมมองของคน 9 คน 4 หนุ่ม 5 สาว ที่ต่างอยู่ในสถานะความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องการใครสักคนที่จะพาเรากลับมายังโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราใช้เวลามากเกินไปในการหมกมุ่นอยู่กับใครสักคนที่รู้อยู่แก่ใจว่า "เขาไม่ได้ชอบเราเลย" ภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ และดราม่า อารมณ์หลากหลาย ไม่เหมือนกับภาพยนตร์รักทั่วไป เพราะชีวิตจริงเราก็มักจะต้องเผชิญกับความผิดหวังในเรื่องของความรักกันเสมอ

6. Marriage Story
ใน Marriage Story ชาร์ลี (อดัม ไดรเวอร์) และนิโคล (สการ์เลตต์ โจแฮนสัน) ต้องทนทุกข์ทรมานจากการต่อสู้แย่งชิงหน้าที่ และการอยู่ในความสัมพันธ์อีกด้าน ด้วยความสัมพันธ์แบบใหม่ ความสัมพันธ์แบบหนึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเพศและความรัก แต่เป็นความเป็นพ่อแม่ที่มีร่วมกัน หนังที่ไม่ได้เล่าถึงการแต่งงานตามชื่อเรื่อง แต่เล่าชีวิตหลังแต่งงานในช่วงขั้นตอนการขอหย่า (Divorce) แค่คนสองคนหมดรักกันก็เจ็บปวดมากพอแล้ว แต่ขั้นตอนการเลิกรายิ่งทำให้ความเจ็บปวดนั้นมากเกินความจำเป็น

7. Legally Blonde
ภาพยนตร์สำหรับทุกคนที่ฉลาดกว่าแฟนเก่าที่โง่ และไม่เห็นคุณค่าในตัวคุณ รีส วิเธอร์สปูน ในบท แอล วูดส์ ทำในสิ่งที่เธอทำ นั่นคือ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะเขากลับมา แต่กลับค้นพบว่าคุณเก่งแค่ไหนในความเป็นจริง และตระหนักว่าคุณไม่ต้องการเขาตั้งแต่แรก สมกับประโยคดังติดปากของแอลที่ว่า "อะไรเหมือนมันยาก?"

8. The Break-Up
ภาพยนตร์อกหักสุดปวดหัวของคนสองคนที่ตกลงซื้อคอนโดมิเนียมด้วยกัน แกรี่ โกรบาวสกี้ (วินซ์ วอห์น) และบรู๊ค เมเยอร์ส (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) แต่กลับยุติความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากได้อยู่ด้วยกัน ปัญหาอยู่ตรงที่ ทั้งคู่ไม่อยากย้ายออกจากคอนโดนี้ พวกเขาจึงตกลงที่จะอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนร่วมห้อง จนกระทั่งทะเลาะกันหนักถึงขั้นขายคอนโดทิ้ง ระหว่างความพยายามในนาทีสุดท้ายเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขาไปสู่ช่วงเวลาแห่งการยอมรับ ภาพยนตร์เรื่อง "The Break-Up" ในปี 2549 พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้แต่จุดจบที่ซับซ้อนและเจ็บปวดที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องคงความเลวร้ายตลอดไป

 9. ‘Eat, Pray, Love’
หนังรักดัดแปลงมาจากนิยายรักขายดีระดับ Best Seller เรื่องราวของลิซ กิลเบิร์ตหญิงสาวอกหัก ที่เริ่มต้นออกเดินทางไปยังอิตาลี อินเดียและบาหลีเพื่อตามหารักแท้  แต่การเดินทางครั้งนี้กลับทำให้เธอรู้จักพัฒนาทัศนคติและเปลี่ยนแปลงตัวเอง การใช้เวลากับตัวเองเพื่อทำความรู้จักตัวเองให้ลึกซึ้งและตัดสินใจกับตัวเองว่าคนแบบไหนที่เราอยากจะเป็น

10. Casablanca
หนังรักที่ดีที่สุดตลอดกาล (1942) เรื่องราวของชายวัยกลางคน  ฮัมฟรีย์ โบการ์ต ผู้ซึ่งหวนกลับมาเจอคนรักเก่าและสามีเธอ อิงกริด เบิร์กแมน และ พอล เฮนรีด หัวหน้าฝ่ายต่อต้าน ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2

11. เพื่อนสนิท

ภาพยนตร์ตำนานของการแอบรักเพื่อนที่จำได้ไม่ลืม หลังจาก หมู พระเอกบอกรักเพื่อนสนิทของเขา ดากานดา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป ทำให้หนุ่มเซอร์ต้องหนีไปพักสงบจิตสงบใจ ระหว่างการหนีไปพักใจ หมูประสบอุบัติเหตุและได้พบกับนุ้ย พยาบาลสาวที่ดูเหมือนจะไม่ได้ดูแลแค่ร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียว

12. จดหมายรัก
หนังรักที่แฝงไปด้วยความความคิดถึงจากการสูญเสีย ดิว มีโอกาสไปเชียงใหม่แล้วได้พบกับ ต้น ชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรัก ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ความยินดีเกิดขึ้นไม่นาน ต้นก็เสียชีวิตด้วยเนื้องอกในสมอง ภายหลังการเสียชีวิตของต้น ดิวได้รับจดหมายปริศนาซึ่งถูกเขียนด้วยลายมือของต้น ที่มารู้ทีหลังว่า จดหมายทุกฉบับถูกเขียนไว้ก่อนการจากไปของเขา 

13. ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
ภาพยนตร์ที่พาเราย้อนกลับไปวันที่เราเลิกกับใครสักคนนึง แล้วกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังตัดสินใจว่า จะเลือกที่จะเก็บ หรือ เลือกที่จะทิ้งดี หนังเล่าถึง "จีน"  ที่ต้องการเคลียร์บ้านเพื่อรีโนเวท อะไรที่ไม่ใช้แล้ว อะไรที่ทิ้งไว้ก็รก เธอตัดสินใจจะทิ้งให้หมดเลย  เรื่องราวเกิดขึ้นในระหว่างนั้น เธอได้เจอของบางอย่างที่เป็นของ "เอ็ม" แฟนเก่า จีนเริ่มพบว่าการทิ้งครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด เพราะของบางอย่างแม้จะไม่มีประโยชน์แล้ว แต่มันยังมีเรื่องราวให้นึกถึง

14. แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว
 เรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของใคร เมื่อ เด่นชัย หนุ่มพนักงานไอทีที่แอบหลงรัก นุ้ย สาวฮ็อตแผนกการตลาด ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ที่ได้เป็นแฟนกับเธอ เนื่องจากอุบัติเหตุที่ทำให้นุ้ยความจำเสื่อมไป 1 วัน เด่นชัยเลยสวมรอยเป็นแฟนนุ้ย และดูแลเธอในแบบที่เขาต้องการมาตลอด

15. กุมภาพันธ์
ภาพยนตร์รักโรแมนติกที่ออกฉายในวันวาเลนไทน์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ผลงานการแสดงของ เจี๊ยบ โสภิตนภา และ ชาคริต แย้มนาม เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่รู้กำหนดวันตายของตัวเอง และได้ตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือที่นิวยอร์ก แต่ที่นิวยอร์ก เธอกลับประสบอุบัติเหตุและจำอะไรไม่ได้ มีเพียงผู้ชายลึกลับคนหนึ่งกลับคอยดูแลเธอตลอด เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่ความรักจะสำคัญอย่างไร ถ้าเธอได้รับรู้ว่า ช่วงเวลาอันแสนสุขนี้ มีเวลาถึงแค่เพียงกุมภาพันธ์เท่านั้น