เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่เพื่อนร่วมงานขอความช่วยเหลือมากเกินไป ลองใช้เทคนิค 20/80 คือ ตอบ "ไม่" 20% และ 80% ให้หาทางเลือกอื่น

เพื่อนร่วมงานที่ชอบกวนให้ช่วยงาน หรือบ่นชีวิตส่วนตัวที่ไม่มีอะไรดี อาจทำให้เสียสมาธิจากงาน หมดเรี่ยวแรง แถมยังทำให้รู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้อีกด้วย แม้ว่าจะชอบเพื่อนร่วมงานคนนี้ แต่การได้ยินเขาคร่ำครวญถึงชีวิตแต่งงานที่ไม่มีความสุข หรือความไม่มั่นคงในหน้าที่การงานของเขาอาจมากเกินไป 

เมื่อรวมกับความเครียดจากงานของตัวเราเอง เช่น ความกดดันที่ต้องทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลาหรือทำตามความคาดหวังของหัวหน้างาน แต่เพื่อนร่วมงานกำลังขอให้ช่วยฟังปัญหาชีวิต เผลอๆยังขอให้เราช่วยอีก สิ่งสำคัญคือต้องยอมรับความยากลำบากของเขา แต่ทำให้เขารู้ว่าคุณไม่สามารถแก้ปัญหาของเขาได้

ตามข้อมูลปี 2022 รายงานแรงงาน Aflac ผลสำรวจเผย พนักงานบริษัทเอกชน หรือข้ารชการ องค์กรุกแห่งกว่าร้อยละ 60  ประสบภาวะหมดไฟในระดับ “ปานกลาง” เป็นอย่างน้อย 

วิธีหนึ่งในการช่วยลดความกดดันนั้นคือ อย่าผูกมัดเพื่อนร่วมงานที่คอยขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ หากเเป็นคนที่ชอบเอาใจคนอื่น ความคิดที่จะพูดปฏิเสธโดยใช้คำว่า "ไม่" เมื่อมีคนขอความช่วยเหลืออาจเป็นเรื่องที่น่ากลัว จนเกือบเป็นไปไม่ได้

“ความท้าทายในการพูดว่า 'ไม่' และรับช่วยเหลือแทน” แบรนดอน สมิธ นักบำบัดและโค้ชด้านอาชีพที่รู้จักในชื่อ The Workplace Therapist กล่าว ต่อไปนี้คือวิธีพูด "ไม่" อย่างสุภาพเมื่อเพื่อนร่วมงานขอความช่วยเหลือ

ขั้นแรก ละทิ้งความคิดที่ว่า "ฉันเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่บนโลกที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้" ในความเป็นจริงคือแม้ว่าพวกเขาจะดูไร้ประโยชน์ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น “ในขณะที่เราคิดว่าพวกเขาคิดว่าเราคือผู้กอบกู้ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือใครสักคนที่จะทำสิ่งนี้” สมิธกล่าว

ประการที่สอง ตอบสนองด้วยความสงสารและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน คำตอบของคุณควรเป็น "20% 'ไม่' และ 80% ทางเลือกอื่น" สมิธกล่าว ทางเลือกอื่นในที่นี้อาจเป็นการแนะนำเพื่อนร่วมงานคนอื่นและพูดทำนองว่า “จริง ๆ แล้วฉันเพิ่งเข้ามาทำงาน แต่ฉันคิดว่า [ใส่ชื่อเพื่อนร่วมงานคนอื่น] สามารถช่วยคุณได้ ที่จริงเขาเพิ่งช่วยฉันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว”

หรือสามารถพูดว่าไม่มีเวลาให้รอไปก่อน เช่น “ตอนนี้ฉันไม่มีความสามารถที่จะทำงานนี้ (หรือช่วยได้) แต่ถ้าคุณรอได้ สัก 1 สัปดาห์ ฉันจะช่วยเอง” ในกรณีนี้ถ้างานด่วน เพื่อนร่วมงานก็จะหาคนอื่นมาช่วยพวกเขาเอง

แต่ประการสำคัญ ไม่ว่าจะยุ่ง หรือตอนนั้นทำอะไรก็ตาม อย่าตัดพ้อเหตุผลทั้งหมดที่จะไม่สามารถทำงานได้มากกว่านี้ เพราะมันเปิดคุณสู่ "การเจรจาต่อรอง" สมิธกล่าว เพราะเมื่อเพื่อนร่วมงานรู้ว่าเรามีรายการสิ่งที่ต้องทำอะไรบ้าง และพวกเขาตัดสินใจว่าสิ่งที่พวกเขาต้องทำนั้นสำคัญที่สุด และยังคงคะยั้ยคะยอให้คุณช่วยพวกเขาต่ออยู่ดี

ดังนั้นเทคนิคคือ "ทำให้สั้นและเป็นกันเอง"  สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณไม่ต้องทำงานมากเกินไปในขณะที่ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ในที่ทำงานเสียไป