เตรียมตัวเตรียมไต เมนูฮิต "เบอร์เกอร์ชีส" อัดแน่นด้วยโซเดียม 

เตรียมตัวเตรียมไต เมนูฮิต
อร่อยปาก ลำบากไต กับเมนูอินเทรนด์ "เบอร์เกอร์ชีส" ชีสจัดเต็ม 20 แผ่น ไม่ผัก ไม่เนื้อ เอาใจสายชีสเลิปเวอร์ แต่ไตป่วยเวอร์แน่นอน

กำลังเป็นกระแสมาแรงขณะนี้สำหรับเมนู "เบอร์เกอร์ชีส" เบอร์เกอร์ที่อัดแน่นไปด้วยชีส 20 แผ่น ไม่มีผัก หรือเนื้อสัตว์ใดๆ สอดแทรก ถูกใจสายชีส ยิ่งถ้าเอาไปเข้าไมโครเวฟแล้ว ตัวชีสจะติดกันเป็นก้อนเดียว ได้แต่สงสัยว่าจะงับคำเดียวได้หรือไม่ แต่ในความจัดเต็มด้วยชีส ยังพ่วงโซเดียมแบบเต็มเปี่ยม เกินขีดจำกัดที่ควรรับต่อวันแน่นอน

ด้วยองค์การอนามัยโลก กำหนดให้เรากินโซเดียมไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม (ประมาณเกลือ 1 ช้อนชา) แถมในอาหารปกติยังมีเครื่องปรุงมากมายที่มีโซเดียมอยู่แล้ว ยังไม่รวมวัตถุดิบบางอย่าง ถ้าหากกินโซเดียมมากเกินไป ก็จะมีผลเสียต่อการทำงานของไต ของหัวใจ และทำให้ระดับความดันโลหิตสูงได้

จากข้อมูลของเพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเมนูในกระแสนี้ว่า เชดด้าชีส Cheddar Cheese ที่ใส่ในเบอร์เกอร์นั้น แผ่นนึงน้ำหนักประมาณ 21 กรัม และอาจจะมีโซเดียมสูง 190 - 320 มิลลิกรัม ขึ้นกับยี่ห้อ

เท่ากับว่า เบอร์เกอร์ชีสหนึ่งก้อน ที่ใส่เชดด้าชีสไป 20 แผ่น ก็อาจจะให้โซเดียมได้ถึง 3,000 มิลลิกรัม เป็นอย่างน้อย (อันนี้ยังไม่รวมโซเดียมที่อยู่ในขนมปังด้วยนะ) ทานเข้าไปหนึ่งก้อนนี่ ได้โซเดียมเทียบเท่ากับที่ไม่ควรกินเกินทั้งวันแล้ว ! 

ยิ่งกินน้ำอัดลมด้วย หรือเพิ่มเฟรนช์ฟรายส์ด้วย แถมซอสจิ้มปรุงแต่งรสด้วย ปริมาณโซเดียมพุ่งเกินคำเตือนองค์การอนามัยโลกไปเยอะเลย .. เรียกได้ว่า มื้อเดียว ไม่ต้องกินอะไรอย่างอื่นแล้ว

แต่ใช่ว่าเบอร์เกอร์ทั่วไปจะมีโซเดียมน้อยกว่าเบอร์เกอร์ชีสนี้ อย่างที่บอก ไม่ใช่แค่ชีสที่มีโซเดียมสูง แต่วัตถุดิบอื่นๆ ร่วมทั้งเครื่องปรุงก็อัดแน่นไปด้วยโซเดียมด้วยเช่นกัน

ข้อมูลจากเว็บไซต์พบแพทย์เผยว่า อาหารบางชนิดก็มีโซเดียมสูง ยกตัวอย่างเช่น 'เนื้อสัตว์แปรรูป' ที่ใส่ในเมนูเบอร์เกอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม หรือแม้แต่เบคอนก็ล้วนแต่เป็นอาหารที่อันตราย เพราะอาหารเหล่านี้ต้องใช้เกลือจำนวนมากในแปรรูป แค่เบคอนเพียง 100 กรัมก็มีปริมาณโซเดียมถึง 751 มิลลิกรัม ในขณะที่ไส้กรอกหมู 1 ชิ้น มีปริมาณโซเดียม 388 มิลลิกรัมเลยทีเดียว

หรือบางคนไม่ชอบดื่มน้ำอัดลม แต่ชอบดื่ม 'น้ำผลไม้' ก็เสี่ยงต่อโซเดียมสูงเช่นกัน เพราะในน้ำผลไม้ที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อสุขภาพ กลับเต็มไปด้วยน้ำตาล แถมด้วยโซเดียมอีกเพียบ น้ำมะเขือเทศเพียง 1 แก้ว ปริมาณ 200 มิลลิลิตรก็มีโซเดียมสูงถึง 280 มิลลิกรัมเลยทีเดียว

ในส่วนของ 'เครื่องปรุง' แม้จะช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยและทำให้อาหารมีสีสันมากขึ้น แต่ปริมาณโซเดียมก็สูงเป็นเงาตามตัว อย่างซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะมีโซเดียมสูงถึง 149 มิลลิกรัม ส่วนน้ำปลาในปริมาณเท่ากัน มีโซเดียมสูงถึง 1,620 มิลลิกรัม

ปิดท้ายด้วย 'ขนมปัง'  อาจจะเคยได้ยินมาว่าการรับประทานขนมปังโฮลวีท หรือขนมปังที่ทำจากธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีนั้นดีกับสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้ว ขนมปังโฮลวีท 1 แผ่นมีโซเดียม 125 มิลลิกรัม ขณะที่ขนมปังขาวมีโซเดียมเพียง 117 มิลลิกรัม

การรับประทานอาหารโซเดียมสูงเหล่านี้บ่อย ๆ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะไตวายได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานที่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหาร

จึงควรรับประทานแต่พอดี ลดอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงผงชูรส ลดอาหารแปรรูป ลดอาหารที่มีน้ำจิ้ม ลดการใส่เครื่องปรุงหรือซอสในอาหารที่ปรุงมาแล้ว และอ่านฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจสอบปริมาณโซเดียมเสมอ

TAGS: #ชีส #เบอร์เกอร์ชีส #โซเดียม