เลิกตื่นเช้า! เพราะชีวิต 'ไม่ได้' ประสบความสำเร็จจากการตื่นเช้า

เลิกตื่นเช้า! เพราะชีวิต 'ไม่ได้' ประสบความสำเร็จจากการตื่นเช้า
หลายตำรา หนังสือ How To หลายๆ เล่มในปีที่ผ่านๆมา มักจะแนะนำว่า อยากประสบความสำเร็จในชีวิต หรือ อยากให้มีโปรดักทีฟ ต้องตื่นตั้งแต่เช้า ไม่ใช่แค่ตีห้า หรือ หกโมงเช้า แต่ต้องเช้ากว่านั้น!

ยกตัวอย่างบุคคลที่ประสบความสำเร็จ และมีนิสัยชอบตื่นเช้าอย่าง ผู้ร่วมก่อตั้ง Ellevest อย่าง แซลลี่ คราวเช็ค และอินทรา หนูยี อดีตซีอีโอของแป๊ปซี่ ที่ตื่นตั้งแต่ตี 4 หรือ ทิม คุ๊ก ซีอีโอแอปเปิลที่ตื่นเช้ากว่านั้นคือ 3.45 น.

เมื่อเราเห็นตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จต่างตื่นเช้า เพื่อมาทำกิจกรรมบำรุงสมองไม่ว่าจะ อ่านหนังสือ อัปเดตข่าว หาความรู้เพิ่ม เราก็ต่างอยากลองใช้ชีวิตเช่นนั้นเหมือนกัน แต่! การตื่นเช้าทุกวันแบบทิม คุ๊ก หรือใส่เสื้อคอตัวสีดำอย่างเดียวแบบ สตีฟ จ๊อบไม่ได้ทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตหรอก

cnbc เผยผู้คนมากมายตระหนักได้ว่าการตื่นเช้าตรู่ไม่ได้ช่วยพวกเขา นอกจากว่านาฬิการ่างกายโดยธรรมชาติของพวกเขาเป็นพวก "นกที่ตื่นเช้า" ให้จำไว้ว่า เทคนิคนี้เหมาะกับคนกลุ่มน้อยมากๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุกรรมอีกต่างหาก

ดังนั้น"การตื่นเช้า"ไม่สำคัญเสมอไป
หากการตื่นเช้ามันฝืนร่างกาย แถมทำให้เราง่วง สัปหงกระหว่างวัน นอกจากจะแย่ต่อร่างกาย ประสิทธิภาพในการทำงานที่คาดไว้ก็สูญ วิทยาศาสตร์ระบุชัดเจนว่าการอดนอนเป็นหนึ่งในตัวทำลายประสิทธิภาพการทำงานที่ใหญ่ที่สุด การนอนหลับไม่เพียงพอรบกวนประสิทธิภาพการรับรู้ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ และอาจทำให้อายุขัยของคุณลดลง

นอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงติดกัน
แดเนียล การ์เทนเบิร์ก นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนแนะนำให้ "นอนแปดชั่วโมงครึ่ง" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตลอดทั้งวัน ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะตั้งนาฬิกาปลุกเร็วขึ้นสองสามชั่วโมง คุณจะต้องเข้านอนเร็วภายในเวลา 19:30 น. ซึ่งในความเป็นจริงหลายคนคงยังอยู่ในออฟฟิศ หรือ กำลังเดินทางกลับบ้านซะด้วยซ้ำ

การเน้นการพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้ตื่นมาพร้อมกับสมองที่ปลอดโปร่ง เริ่มจากการฟังเสียงจากร่างกายเรา หากเราคือมนุษย์กลางคืน ที่ร่างกายไม่เหมาะที่จะตื่นเช้าเพื่อทานอาหารเช้า ไม่ได้เหมาะที่จะอ่านหนังสือ หรือตามข่าวในตอนเช้าก็ไม่เป็นไร เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเหมาะกับทุกคน

เมื่อเราเจอตารางการนอนที่เข้ากับเรา ไม่ว่าจะเป็นการตื่นหรือไม่ตื่นในช่วงตี 4 ก็ตาม การศึกษาของฮาร์วาร์ดในปี 2560 พบว่าไม่สำคัญว่าคุณจะนอนเร็วและตื่นเช้าหรือกลับกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความสม่ำเสมอเกี่ยวกับตารางเวลา" ของเราต่างหากที่ทำให้ร่างกายสามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพ หากมีความจำเป็นต้องตื่นเช้า วางแผนนอน "ให้เพียงพอ"

สุขภาพมาก่อน ความสำเร็จจะตามมา
สูตรสำเร็จนั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือ "สุขภาพมาก่อน" แต่ถ้าหากเห็นความสำเร็จสำคัญกว่า โปรดรู้ไว้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ชายผู้มีทรัพย์สินมูลค่า 82 พันล้านเหรียญสหรัฐชอบที่จะนอนพักผ่อน และเคยกล่าวไว้วา "ผมไม่อยากตื่นมาทำงานตอนตี 4"

TAGS: #การนอน #นอนหลับ #สุขภาพ #ประสบความสำเร็จ