เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย โชว์ความพร้อมประเทศไทยสู่ศูนย์กลางทางการแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ชี้อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาทต่อปี
บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ผนึกพันธมิตรด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพกว่า 800 รายจาก 40 ประเทศทั่วโลก เปิดฉากงานเมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์ 2023 มหกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกขบวนนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์จากนานาประเทศ
ยกระดับศักยภาพประเทศไทยในฐานะฮับการแพทย์มาตรฐานสากล พร้อมพื้นที่สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเจรจาแลกเปลี่ยนทางธุรกิจและพัฒนาองค์ความรู้ พร้อมแข่งขันในเวทีโลก
3 โซน สะท้อนอนาคตการแพทย์ของโลก
นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย เปิดเผยว่า เมดิคอลแฟร์ไทยแลนด์2023 ซึ่งเป็นมหกรรมด้านการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิต และผู้แทนจากแบรนด์ต่างๆ เสริมความแข็งแกร่งให้กับแวดวงอุตสาหกรรมการแพทย์ ในจุดยุทธศาสตร์ของอาเซียน
โดยในปีนี้มีผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและนวัตกรรมกว่า 800 บูธจาก 40 ประเทศทั่วโลก ที่จะมาร่วมแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมด้านเครื่องมือวินิจฉัย ระบบกำจัดเชื้อ อุปกรณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ ฯลฯ สร้างการต่อยอดทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งผลักดันและปักหมุดประเทศไทยในฐานะฮับการแพทย์ ส่งเสริมการลงทุนและเศรษฐกิจในระดับมหภาค
"การจัดงานเมดิคอล แฟร์ ไทยแลนด์ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2005 และล่าสุดในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 10 แล้ว ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนผู้ร่วมงานและนักลงทุนเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นทุกปี สะท้อนถึงทิศทางการการเติบโตของนวัตกรรมเฮลท์เทคของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งภายในงานประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก คือ
1) สตาร์ทอัพพาร์ค เพื่อสร้างความร่วมมือและต่อยอดทางธุรกิจ ผลักดันสตาร์ทอัพให้เติบโต
2) พาวิลเลี่ยนดูแลสุขภาพชุมชน ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องเทรนด์สุขภาพในอนาคต ทั้งระบบอัจฉริยะและเครื่องมือในดูแลรักษาโรค เวชศาสตร์ผู้สูงวัย การฟื้นฟูสมรรถภาพ ฯลฯ
3) พาวิลเลี่ยนอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์
ไฮไลท์พิเศษที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปีนี้ นำเสนอนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านวัสดุ ผลิตภัณฑ์แพคเกจจิ้ง และบริการขั้นสูง ผู้ร่วมชมงานในปีนี้มาจากนานาประเทศทั่วโลก จะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้กับผู้ประกอบการไทยในการต่อยอดธุรกิจได้ในระดับเวทีโลก" นายเกอร์นอท กล่าว
ดร.ดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญสำหรับผู้จัดงานนิทรรศการงานประชุม และงานแสดงสินค้าในระดับโลก ซึ่งอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมและบริการทางการแพทย์ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) ของไทย ที่มีศักยภาพในการเสริมความแข็งแกร่งทางสังคมและเศรษฐกิจ ดังนั้น มหกรรมเมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023 ถือเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางภูมิภาคทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
"งานในวันนี้เป็นภาพสะท้อนสำคัญในฐานะความพร้อมของประเทศไทยสู่เวทีโลก และ TCEB มีแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี พ.ศ. 2566-2570 ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ TCEB Go ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ ขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ด้วยนวัตกรรมและสร้างความยั่งยืนร่วมกัน" ดร.ดวงเด็ด กล่าว
ด้าน ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนในประเทศมีประมาณ 400 แห่ง โดยปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน คือกลุ่มการท่องเที่ยวทางการแพทย์ หรือ Medical Tourism
โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.1 แสนล้านบาท และอาจแตะระดับ 7.6 แสนล้านบาท ในปี 2570 ทำให้ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัวทั้งการพัฒนาทักษะบุคลากรและเทคโนโลยีใหม่ๆ มีคุณภาพสูง
เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์โลกและความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งมองหาการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและมีราคาไม่แพง ดังนั้น นวัตกรรมใหม่ๆ ภายในงานเมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ จึงตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ประกอบการในวงการการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการทางการแพทย์ทางไกล อุปกรณ์วิเคราะห์โรคเพื่อการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้ในงานประชุมและสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
นอกจากนี้ ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย (THAIMED) กล่าวว่า ตลาดอุปกรณ์การแพทย์ของประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้และปีหน้า
จากการผลักดันนโยบายศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการส่งออกอุปกรณ์การแพทย์ โดยอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาทต่อปี
"ในปีนี้ ความต้องการอุปกรณ์การแพทย์ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยได้อานิสงส์จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราการเจ็บป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ผู้ป่วยต่างชาติกลับมาใช้บริการในไทยหลังการเปิดประเทศ
กระแสการใส่ใจสุขภาพและความต้องการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกรวมถึงไทยเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทยยังมีความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองประเภทถุงมือยาง หลอด/เข็มฉีดยา โดยประเทศปลายทางที่สำคัญสำหรับอุปกรณ์และอุปกรณ์การแพทย์ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ซึ่งงานเมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023 จะเป็นเวทีที่เชื่อมต่อผู้ผลิตและผู้ใช้บริการอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมโอกาสและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น" ภก. ปรีชา กล่าว
สำหรับงานเมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023 ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
และระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2566 ในรูปแบบออนไลน์ ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพจากหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก พร้อมด้วยหัวข้องานประชุมทางการการแพทย์ระดับโลก สามารถติดตามการจัดงานเมดิคอลแฟร์ไทยแลนด์ ครั้งที่ 10 ได้ที่ www.medicalfair-thailand.com