ในโลกที่มีความเครียดรอบตัว เมื่อเรารู้สึกถึงความกดดันและรู้สึกเครียดจนกระทบต่อการรับผิดชอบการทำงาน นี่คือเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เราจะมีวันแห่งสุขภาพจิตประจำเดือน

ในโลกที่มีความเครียดรอบตัว ไล่ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อสูง ความผันผวนของตลาด ความขัดแย้งทั่วโลก จนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อเรารู้สึกถึงความกดดันและรู้สึกเครียดจนกระทบต่อการรับผิดชอบการทำงาน นี่คือเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เราจะมีวันแห่งสุขภาพจิตประจำเดือน

ผู้คนรอบโลกกำลังเข้าสู่ความเหนื่อยล้าระดับสูงจนหลายคนตัดสินใจลาออกจากงาน มิเชล นีลลอน นักจิตวิทยา และประธาน The Chicago School of Professional Psychology กล่าวว่า "พูดตามตรง คุณควรใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันต่อเดือนเพื่อสุขภาพจิต"  นอกเหนือจากการไปนอน หรือปิดแจ่งเตือนอีเมลที่ทำงาน การใช้ 1 วันเพื่อสุขภาพจิต ลดความเครียดนั้นมีตัวเลือกราคาไม่แพง นีลอนกล่าวเพิ่มเติมว่า “คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อพักผ่อน”  และเสริมว่า วันสุขภาพจิตมีประโยชน์ต่อประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าที่คุณคิด เคล็ดลับมี 4 ข้อ

1. เคลื่อนไหวร่างกาย
ไม่ว่าจะเดินรอบๆ ละแวกบ้าน ทำกิจวัตรการออกกำลังกายจริงจังเป็นเวลา 10 นาที ระหว่างวันก็เคลื่อนไหวบ้าง เพระการออกกำลังกายมักเชื่อมโยงกับสุขภาพจิตที่ดีขึ้น  ผลการศึกษาเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Elsevier พบว่าการปิดเมืองในช่วงต้นของการแพร่ระบาดทำให้กิจกรรมทางกายของผู้คนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนำไปสู่ระดับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าที่สูงขึ้น

ดร. คิมเบอร์ลี เอ. ยองเกอร์ส ศาสตราจารย์และหัวหน้าแผนกจิตเวชศาสตร์แห่ง UMass Chan Medical School กล่าว “การสละเวลาเพื่อเคลื่อนไหวร่างกายของคุณสามารถฟื้นฟูร่างกายได้อย่างแท้จริง เพียงแค่เคลื่อนไหวร่างกายของเราอย่างสนุกสนาน”

ยองเกอร์ส นิยามว่า “วิธีแห่งความสุข” คืออะไรก็ตามที่รู้สึกสบายและน่าตื่นเต้นสำหรับเรา เธอแนะนำให้ยึดตามกรอบเวลาของคุณ หากิจกรรมที่เราสนใจเช่น หาวิธีออกกำลังกายใหม่ ฝึกโยคะที่บ้าน ยืดเหยียดระหว่างวัน เดินเล่นนอกบ้าน ปีนเขา หรือเต้น

2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ และ ดื่มน้ำบ่อยๆ
การหลีกเลี่ยงอาหารเพื่อสุขภาพอาจส่งผลเสียต่ออารมณ์ของคุณได้ นีลลอนระบุว่า รูปแบบการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมักเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ตามการศึกษาในปี 2020 ที่ตีพิมพ์ในวารสารการค้าทางการแพทย์ BMJ

“ใช้เวลาไตร่ตรองว่า 'วันนี้ฉันกินอะไรได้บ้าง' และปรนนิบัติตัวเองด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าอาหารเพื่อสุขภาพจะเป็นแบบไหนสำหรับคุณในวันหนึ่งๆ ให้ใช้เวลานั้นบำรุงร่างกายด้วยสิ่งที่ดีต่อสุขภาพในวันนั้น ”นีลลอนกล่าว จำหลักสามประการนี้ "การนอนหลับ อาหารที่เรากิน และวิธีที่เราเคลื่อนไหวร่างกาย" สิ่งเหล่านี้คือหลักสามประการที่ทำให้เราอยู่ในการวิ่งมาราธอนแห่งชีวิตนี้ในระยะยาว

3. พักผ่อนบ้าง
ดร. คริสติน ฟรานซิส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์แห่งสถาบันสุขภาพจิต Huntsman แห่งมหาวิทยาลัยยูทาห์กล่าวว่า การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอสามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้กับสมองของคุณได้ 

ฟรานซิสแนะนำให้เข้านอนแต่หัวค่ำในวันแห่งสุขภาพจิตของคุณ เพื่อที่คุณจะได้ตื่นแต่เช้าตรู่และเริ่มต้นวันใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นวันทำงานด้วย คนที่มีงานประจำมักจะไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แอปฯ การฝึกสติอาจช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น ฟรานซิสกล่าว

4. ทำงานอดิเรกอย่างจริงจังและหาสมดุลให้ตัวเอง
ในทางทฤษฎี การไม่ทำอะไรเลยอาจฟังดูเหมือนความฝัน แต่จะเป็นไอเดียที่แย่มากๆ หากจะใช้วันแห่งสุขภาพจิตของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

ฟรานซิสกล่าวว่าความเครียดและประสิทธิภาพการทำงานอยู่บนเส้นโค้งรูประฆัง ความเครียดมากเกินไปจะลดประสิทธิภาพการทำงาน ในขณะที่ความเครียดที่น้อยเกินไปจะทำให้คุณพึงพอใจ เธอกล่าวต่อว่าคุณสามารถหาสมดุลได้ด้วยการทำงานอดิเรกในขณะที่คุณไม่อยู่ที่ออฟฟิศ

ในวันสุขภาพจิต ฟรานซิสแนะนำอัตราส่วน 1 ต่อ 4 ในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จและทำกิจกรรมที่น่าพึงพอใจ การเลิกทำสิ่งที่ต้องทำสักอย่างจะทำให้คุณพึงพอใจและช่วยให้คุณรู้สึกมีประสิทธิผล แต่การใช้เวลาที่เหลือของวันทำในสิ่งที่คุณชอบจะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ 
“คุณจะรู้สึกถึงความสำเร็จที่ได้เอาสิ่งนั้นออกจากรายการ แต่วันส่วนใหญ่ของคุณจะใช้เวลาไปกับกิจกรรมสนุกๆ และเติมพลัง” ฟรานซิสกล่าว