ออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength training) สำหรับผู้ใหญ่วัย 50+ ไปกับเทรนเนอร์ “จามาล ยูนิส”
ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯจะมีฟิตเนสให้บริการอย่างหนาแน่นและมีตัวเลือกหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงบุคลากรที่ชำนาญในการสอนออกกำลังกาย หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า ‘เทรนเนอร์’ จำนวนมาก แต่การจะหาเทรนเนอร์เฉพาะทางสำหรับ ‘ผู้สูงอายุ’ หรือผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไป กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทำความรู้จักกับเทรนเนอร์ “จามาล ยูนิส” จากฟิตเนส BASE Bangkok ผู้ที่มีความสามารถเฉพาะทางในการสอนผู้สูงอายุทั้งบุคคลทั่วไปและนักกีฬา ให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้ไม่เป็นเพียงความภาคภูมิใจของเทรนเนอร์จามาล แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการในตลาดของคนไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอีกด้วย
ลูกค้าในกลุ่มผู้สูงอายุ (ผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไปรวมถึงนักกีฬาที่มีอายุหรือที่เราเรียกว่ากลุ่ม ‘Masters’) มักเผชิญข้อจำกัดในการออกกำลังกายที่แตกต่างจากวัยหนุ่มสาว ดังนั้นโปรแกรมการออกกำลังกายสำหรับคนกลุ่มนี้จะต้องถูกออกแบบอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากปัจจัยและเป้าหมายรายบุคคลเป็นหลัก ไม่มีการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเด็ดขาด
การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านหรือการเวทเทรนนิ่ง (Strength Training) ไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า แต่ยังเป็นหนทางช่วยป้องกันการทรุดโทรมของร่างกายอีกด้วย
‘ความอ่อนแอลงทางกายภาพเป็นความจริงที่หลีกหนีไม่ได้สำหรับผู้สูงอายุบางคน เพราะยิ่งเราอายุเพิ่มขึ้น เรายิ่งมีโอกาสสูญเสียกล้ามเนื้อและมวลกระดูก ถูกวินิจฉัยว่ากระดูกพรุน หรือแม้แต่การเปราะแตกของเชิงกรานซึ่งอาจจะเป็นบั้นปลายชีวิตที่เจ็บปวดสำหรับพวกเขาเหล่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ผ่านการออกกำลังกาย
ซึ่งนอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคยอดนิยมอย่างโรคหัวใจ เบาหวานและปัญหาการทรงตัว ที่มักเป็นผลพวงจากการใช้ชีวิตที่ไม่กระฉับกระเฉง’ เทรนเนอร์จามาลกล่าว
เทรนเนอร์จามาลศึกษาและอ้างอิงแนวคิดการสอนมาจากการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งในอุสาหกรรมสุขภาพประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะหนังสือ “The Barbell Prescription” ของ ดร.โจนาธาน ซัลลิแวน(Dr. Jonathon Sullivan) ที่ได้จุดประกายความสนใจในการฝึกสอนกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุจนถึงทุกวันนี้ ถึงอย่างนั้น แนวทางการเวทเทรนนิ่งสำหรับผู้สูงอายุและวัยหนุ่มสาวมีหัวใจสำคัญที่เหมือนกัน เพียงแต่ในกลุ่มผู้สูงอายุจะต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดทางร่างกาย เช่น โรคประจำตัว อาการบาดเจ็บ ความยืดหยุ่นของร่างกาย และอื่น ๆขึ้นอยู่กับบุคคล
การสอนออกกำลังกายของเทรนเนอร์จามาลหลัก ๆ จะเป็นท่าพื้นฐานที่คนส่วนมากคุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น เดดลิฟท์(Deadlift), สควอท (Squat), เบนช์เพรส (Bench Press) ประกอบกับท่ายกเวทเฉพาะส่วนและคาร์ดิโอ เพื่อความแข็งแรงแบบองค์รวม นอกจากนี้การฝึกท่าพื้นฐานเป็นหลักยังช่วยให้สามารถวัดผลพัฒนาการได้อย่างแม่นยำ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าสูงวัย ที่มองหาโปรแกรมฝึกซ้อมที่ตรงจุด
เทรนเนอร์จามาลสอนออกกำลังกายอยู่ที่ฟิตเนส BASE Bangkok ทั้งสามสาขา (ทองหล่อ สาทรและหลังสวน) และได้มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงวัยตั้งแต่อายุ 50-60 ปีขึ้นไป รวมถึงลูกค้าหลายคนที่มีอายุมากกว่า 80 ปีเทรนเนอร์จามาลอธิบายเพิ่มเติมว่าคนสูงวัยส่วนมากรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปของสมรรถภาพในร่างกายและสุขภาพของตนเอง จึงมักจะทุ่มเทอย่างมากเมื่อเข้าโปรแกรมแล้ว
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์รวดเร็วอย่างวัยหนุ่มสาว แต่พวกเขามักเข้าใจดีกว่าการเก็บเล็กผสมน้อยในการออกกำลังกายจะส่งผลลัพธ์ที่ดีกับสุขภาวะทางกายและชีวิตของเขาในระยะยาวแน่นอน ลูกค้าวัย 65 ปีท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า ‘ตั้งแต่ได้เริ่มฝึกกับเทรนเนอร์จามาลอาการปวดหลังผมเริ่มหายไปจนตอนนี้สามารถยืนตัวตรงได้แล้ว จะลุกจะยืนก็รู้สึกคล่องตัวขึ้น เทรนเนอร์จามาลทำให้การฝึกมีความสนุกและคอยให้กำลังใจผมเมื่อมีการพัฒนา เช่นยกน้ำหนักเดดลิฟท์ได้มากขึ้น ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการเทรนต่อไป’
อีกอุปสรรคสำหรับการออกกำลังกายของผู้สูงวัยคือการมองหาสภาพแวดล้อมของฟิตเนสที่เหมาะสม หากอธิบายให้เห็นภาพ ลองนึกถึงผู้สูงอายุที่ไม่ได้ออกกำลังกายมานาน ต้องก้าวเท้าเข้าไปในฟิตเนสใช้บริการร่วมกับกลุ่มวัยรุ่นอายุน้อย ๆ จำนวนมาก อาจทำให้เกิดความอึดอัดหรือไม่สะดวกสบายได้
เทรนเนอร์จามาลขอต้อนรับทุกท่านมาลองใช้บริการฟิตเนส BASE Bangkok ทุกสาขา ที่พร้อมเปิดกว้างแก่ผู้คนทุกเพศทุกวัยที่อยากดูแลสุขภาพ ให้สามารถใช้บริการได้อย่างสบายใจในบรรยากาศที่อบอุ่น เทรนเนอร์จามาลกล่าวปิดท้ายว่า ‘ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรงขึ้น รับรองว่าหลังจากได้ลองออกกำลังกายเพียงไม่กี่ครั้ง คุณจะสัมผัสได้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณได้อย่างไร’