The Better ชวนทุกคนส่องลุคบนรันเวย์จาก 12 แบรนด์ไทยระดับแนวหน้า ภายใต้แนวคิด “The Future of Fashion”
สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็น ‘World Class Fashion Destination’ ศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก เปิดแกรนด์รันเวย์สุดอลังการ ประกาศศักยภาพแฟชั่นไทย หนึ่งใน Soft Power ทรงพลัง สู่สายตาโลกกับ “Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2023” (BIFW2023) ที่สุดแห่งเวทีแฟชั่นวีค ระดับโลก ภายใต้แนวคิด “The Future of Fashion” ร่วมสร้างคุณค่าอันยั่งยืน (Sustainability) บนโลกแฟชั่นแห่งอนาคต ผนึกกำลัง 12 แบรนด์ไทยระดับแนวหน้านำเสนอแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นล่าสุดตลอด 4 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคม 2566 ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน
ISSUE presented by Purra ดีไซเนอร์: ภูภวิศ กฤตพลนารา
เปิดโชว์อย่างสนุกสนานคึกคักกับดนตรีป๊อปร็อค แต่แฝงกลิ่นอายหมอลำปลุกอารมณ์ผู้ชมให้ม่วนจอยไปกับโชว์
ISSUE (อิชชู่) มาในคอลเลคชั่น PHASSA (ผัสสะ) ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางอันไร้ขอบเขตผ่านสัมผัสต่างๆทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สื่อสารผ่านรูปร่าง สีสัน ลวดลาย ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วย AI และเทคนิคพิเศษ รวมถึงการถักด้วยโครเชต์ เพื่อสร้างมิติในการสัมผัสและมองเห็นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
อีกหนึ่งความพิเศษคือการวัสดุเหลือใช้จากงานอุตสาหกรรมแฟชั่นมาเป็นส่วนหนึ่งในการรังสรรค์ผลงาน โดยเฉพาะการใช้เศษไหมมาทำงานปักซิกเนเจอร์ “ISSUE Thailand” อันเป็นเอกลักษณ์ และเพื่อเป็นการฉลองขวบปีที่ 25 บนถนนสายแฟชั่นของแบรนด์
ISSUE ยังตั้งใจนำเสนอโชว์รูปแบบใหม่ ชวนเหล่านายแบบนางแบบผู้มีความพิเศษ เช่น สูงพิเศษ อวบพิเศษขาวพิเศษ สีผมพิเศษ มาบอกเล่าถึงความแตกต่างและหลากหลายของโลกใบนี้ ทั้งยังได้สาวงามจากเวที Miss Universe Thailand ปีล่าสุดมาร่วมสร้างความประทับใจอีกด้วย
VATANIKA presented by AION – AIONIC AUTO ดีไซเนอร์: วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา
Endless Holiday คือคำจำกัดความสำหรับคอลเลคชั่นล่าสุดของ VATANIKA (วทานิกา) ที่มีภาพของ สลิม แอรอนส์ (Slim Aarons) ช่างภาพชื่อดัง เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก จนได้ออกมาเป็นเครื่องแต่งกายสีสันสดใสแฝงไปด้วยความเปรี้ยวและเซ็กซี่ แม้จะเน้นแพทเทิร์นที่เรียบง่าย แต่ช่วยให้ผู้สวมใส่สวยและดูดีขึ้นได้ ตามแบบฉบับของแบรนด์ที่เน้นความเรียบโก้ และหวังให้ ผู้สวมใส่รู้สึกดีและพึงพอใจในตัวเองมากที่สุด
Kloset ดีไซเนอร์: มลลิกา เรืองกฤตยา และ ณัฐ มั่งคั่ง
สำหรับวันที่ 2 ของ Bangkok international fashion week เริ่มด้วยโช์จาก Kloset ที่ได้แรงบันดาลใจจาก นโปเลียน โบนาปาต จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิฝรั่งเศสผู้มีความทะเยอทะยานและสติปัญญาเฉียบแหลมจนเป็นหัวหอกสำคัญในการปฏิวัติฝรั่งเศส
เกิดเป็นคอลเลคชั่น Autumn Winter 2023 ในชื่อ “Never Give Up” ซึ่ง Kloset (คลอเส็ท) ตั้งใจนำเสนอผู้หญิงที่มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก
ด้วยการหยิบเอาโครงสร้างเครื่องแต่งกายทหารในยุคศตวรรษที่ 18 อย่างคอปกเสื้อแบบตั้ง การตีเกล็ดเสื้อ ขอบแขนดับเบิ้ล และกลิ่นอายของชุดนักเรียนโรงเรียนประจำ มาถ่ายทอดในรูปแบบของสาว Kloset โดยนำดอกมูเกร์ ดอกไม้ซึ่งแสดงถึงความสันติสุขที่หวนคืน มาเป็นลวดลายหลักคู่กับโบว์ขนาดใหญ่ที่อ้างอิงมาจากลายวอลเปเปอร์ในพระราชวังแวร์ซาย
รวมถึงนำดีเทลอักษรย่อที่มักใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปมาเป็นกิมมิก ปักลงบนผ้าคอตตอน ผ้ากำมะหยี่และผ้าขนกระต่ายเทียม ซึ่งจัดเป็นไอเท็มพิเศษของคอลเลคชั่นนี้ โดยทางแบรนด์ออกแบบผลงานให้มีความแคชชวลขึ้น เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้ง และมิกซ์แอนด์แมตช์กับคอลเลคชั่นอื่นได้อย่างสนุกด้วย
Absolute Siam x Holy Number 7 x 789
สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ สร้างสรรค์ Absolute Siam (แอบโซลูท สยาม) มัลติแบรนด์สโตร์ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ ด้วยดีไซน์แปลกใหม่จากการร่วมคอลลาบอเรชั่นระหว่างดีไซน์เนอร์ชื่อดัง หรือสินค้า Exclusive แบบไม่เคยมีมาก่อน
เติมเต็มประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูชีฟและมีจำหน่ายเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์ เพียงแห่งเดียว นำเสนอโชว์พิเศษกับคอลเลคชัน “Contender” สำหรับ Spring Summer 2024 ของแบรนด์สตรีทแฟชั่นชื่อดังจากเกาหลีใต้HOLY NUMBER 7 ซึ่งออกแบบร่วมกับ 789 Trainee
โดยนำความชอบและสไตล์ของวงผสมผสานเข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ อาทิ การนำเมนูอาหารไทยจานโปรดของหนุ่ม ๆ มาบอกเล่าผ่านคอนเซ็ปต์ “Enjoy Your Meal” อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ และการนำสารที่เหล่า 789Survival อยากสื่อถึงทุกคนว่า “Break the Limit” มาสะท้อนผ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนแฟชั่นไอเท็มชิ้นเก๋ จนกลายเป็นเอ็กซ์คลูซีฟดีไซน์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
Leisure Projects presented by Crocs ดีไซน์เนอร์: ณัฐพล กนกวลีวงศ์
เดินทางมาถึงวันที่ 3 เริ่มต้นกับ Leisure ที่ชวนเราท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์กับ Leisure Projects (เลเชอร์โปรเจกต์) คอลเลคชั่น Autumn/Winter 2023
ที่เล่าถึงการตีความใหม่ของ “Wonderland” ในเชิงสัญลักษณ์ซึ่งสื่อถึงการเดินทางทางจิตวิญญาณ เพื่อหลีกหนีจากโลกความเป็นจริงอันวุ่นวาย ทั้งโชว์และผลงานในคอลเลคชั่นนี้จึงชวนให้ล่องลอยไปกับโลกแห่งความฝันและจินตนาการ
ด้วยองค์ประกอบอันน่าน่าดึงดูดซึ่งจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นและความสนใจให้พลุ่งพล่าน อย่างการจับคู่สีที่ตัดกันแต่ลงตัว การใช้เทคนิคไล่เฉดสีหรือ Gradient ในงานพิมพ์ให้มิติที่ดูฟุ้งฝันบางเบา และงานกราฟิกที่เบลอไหวไม่ชัดเจนแต่เด่นสะดุดตา ตลอดจนโครงสร้างและส่วนประกอบของเสื้อผ้าที่เหนือจริงซึ่งจะสร้างความตื่นเต้น ท้าทายจินตนาการ
นำพาไปสู่ความรู้สึกแสนประหลาดของดินแดนวันเดอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ ทว่ายังเน้นประเด็นรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้วัสดุโลคัลเพื่อลดการขนส่ง ลดการใช้พลังงาน ตลอดจนจัดการกับเศษผ้าที่เกิดจากการตัดเย็บอย่างเป็นระบบเพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้มากที่สุด
NAGARA ดีไซเนอร์: นคร สัมพันธารักษ์
ยังคงตั้งใจที่จะมอบความประทับใจให้กับผู้ชมเหมือนเช่นเคย สำหรับ NAGARA (นาการา) แบรนด์ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์อันชัดเจน โดยปีนี้มีความพิเศษที่ลายผ้าจากการมัดย้อมด้วยเทคนิคดั้งเดิมแบบญี่ปุ่น ผสมผสานกับเทคนิคของไทย ออกแบบให้มีรูปทรงที่สวมใส่สบาย สง่า และพลิ้วไหว ตามดีเอ็นเอของแบรนด์ มาในโชว์ที่หรูหราอลังการพร้อมไฮไลต์กับเหล่าเซเลบริตี้ที่เป็นดั่งซิกเนเจอร์ของโชว์ NAGARA ไปแล้ว
MOO ดีไซเนอร์: พลพัฒน์ อัศวะประภา
โชว์ครั้งแรกของ MOO (หมู)แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายและไลฟ์สไตล์น้องใหม่ภายใต้ชายคา Asava Group ที่เน้นเสื้อผ้าสวมใส่สบายสำหรับคนเมือง ด้วยการผสานกลิ่นอายสไตล์ Workwear, American Preppy และStreetwear เข้าไว้ด้วยกัน
โดยเดบิลต์โชว์ครั้งนี้เป็นการเปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ “MOO” อันแสดงถึงตัวตนและจิตวิญญาณที่ชัดเจน เพื่อพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ DNA ของแบรนด์ ที่นำเสนอความสนุกสนานผ่านดีไซน์อันคลาสสิก โดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นในการใช้งาน ให้สามารถสวมใส่ได้จริง
สำหรับคีย์ลุคของคอลเลคชั่นนี้มีทั้งลายเพสลี่ย์โททัลลุค (Paisley Set) ไอเทมลายทาง (Stripe) ในซิลลูเอทซิกเนเจอร์ นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำหรับสายสตรีทอย่าง ผ้าลายทหาร (Camo) ที่มาพร้อมดีเทลใหม่ ๆ และผ้ายีนส์ (Denim) ที่ถ่ายทอดกลิ่นอายความวินเทจเฉพาะตัว
รวมถึงแอคเซสเซอรี่ อย่าง หมวกแก๊ป กระเป๋า และผ้าพันคอ ที่สามารถแมตช์กับทุกไอเทมของแบรนด์ได้อย่างลงตัว สมกับแนวคิดหลักที่อยากให้เรื่องของ MOO เป็นเรื่องหมูหมูของทุกคน
Greyhound Original x TikTok : Creative Director: บดินทร์ อภิมาน Designer: พศิน สะอิ้งทอง, พงศธร แพลอย
จากเบื้องหน้าที่สว่างเจิดจ้าของแกลเลอรี่ศิลปะอันหรูหรา Greyhound Original จะพาไปบุกเบื้องหลังอันดำมืดของตลาดซื้อขายงานศิลปะที่เหนือความคาดหมาย ด้วยโชว์ที่ดูเหมือนจะสงบ นิ่ง เท่ ทว่ากลับมีความตื่นเต้นระทึกใจอยู่ในที ทั้งยังแฝงอารมณ์ขันตามสไตล์ของแบรนด์
พร้อมนำเสนอผลงานศิลปะทางแฟชั่นแสนดึงดูใจในคอลเลคชั่น “BLACK MARKET” ที่หวนกลับคืนสู่รากเดิมของแบรนด์ด้วยการเน้นสีดำและเล่นกับ แพทเทิร์นอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงนำเสนอรูปทรงอันโดดเด่นและกราฟิกสะดุดตา สะท้อนเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะทั้งในเชิงเสียดสีและล้อเลียน บนลุคแบบ Masculine Street Urban ที่จะทำให้ผู้สวมใส่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับชิ้นงานศิลปะ
ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความใส่ใจสิ่งแวดล้อมโดยเลือกใช้ผ้ารีไซเคิลในการสร้างสรรค์ผลงานให้เป็น “Green Label” และที่สำคัญโชว์นี้ยังนำเสนอความหลากหลายตามสไตล์ของ Greyhound ซึ่งใส่ใจเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมาตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา ในฐานะแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่สนับสนุนให้เกิดการยอมรับตัวตนและมาตรฐานความงามอันแตกต่างและหลากหลายในสังคม
PAINKILLER Atelier presented by Seiko 5 Sports ดีไซเนอร์: สิริอร เฑียรฆประสิทธิ์
เปิดฉากวันสุดท้ายกับโชว์แรก นับเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ สำหรับPAINKILLER Atelier (เพนคิลเลอร์ อเตลิเยร์) ที่บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างงานศิลปะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
ด้วยการเลือกหยิบยกเอาศิลปินคนโปรดของเหล่าดีไซเนอร์มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายผู้ชายในคอลเลคชั่น “ARTCORE” โดยนำแนวทางการออกแบบของแบรนด์เข้าไปตีความตัวตนของศิลปินแต่ละคน จนออกมาเป็นคอลเลคชั่นที่ทั้งกลมกลืนและขัดแย้งได้อย่างน่าสนใจ พร้อมแมชต์ลุคเท่ห์ๆกับนาฬิกาSeiko 5 Sport
FRI27NOV. presented by SCG ดีไซเนอร์: ชนะชัย จรียะธนา
“เมื่อความทรงจํามีค่ากับการอยู่บนโลกในปัจจุบันด้วยการมองไปสู่อนาคต” คือคอนเซ็ปต์ที่ FRI27NOV. (ฟรายเดย์ ทเวนตี้เซเว่น โนเวมเบอร์) ต้องการสื่อผ่านโชว์ในคอลเลคชั่น “The Day Yester Tomorrow” จึงตีความผ่านเทรนด์และสไตล์ลิ่ง
โดยนำศิลปะ แฟชั่น หรือสิ่งของที่เคยล้ำค่ามาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ โดยสะท้อนภาพปัจจุบันและโลกอนาคต ผ่านวัสดุ เทคนิค งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของโลกปัจจุบันซึ่งคํานึงถึงความทรงจําที่มีค่าในอดีตด้วยมุมมองภาพรวมที่มุ่งไปสู่อนาคต
โดยที่ไม่หลงลืมประสบการณ์ ความทรงจำ เอกลักษณ์ ที่ทําให้เรามีตัวตนในวันนี้ เพื่อให้เราคงอยู่และเติบโตไปในวันข้างหน้าโดยที่ไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา
TUBE GALLERY presented by TAT ดีไซเนอร์: พิสิฐ จงนรังสิน และ ศักดิ์สิทธิ์ พิศาลสุพงศ์
เพราะคนเรามีตัวตนและอัตลักษณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอัตลักษณ์ที่ติดมาแต่กำเนิด หรือตัวตนที่สะสมผ่านกาลเวลา กระบวนการทางสังคม ความเชื่อ ความชอบ ไปถึงความชัง ทำให้ทุกคนแตกต่างกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
Tube Gallery จึงหยิบยกประเด็นนี้มาเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์คอลเลคชั่น “Identity” หรือ “ตัวตน” ประจำฤดูร้อนปี 2024 ที่เปิดตัวใน New York Fashion Week และ Paris Fashion Week ไปแล้วก่อนหน้านี้
โดยแปลความหมายของอัตลักษณ์บ่งบอกตัวตนให้กลายเป็นลวดลายต่างๆ ถ่ายทอดเป็นงานปักในสไตล์ที่ถนัด ใส่เทคนิคงานฝีมือบนเนื้อผ้าที่ไม่เหมือนใคร รวมทั้งงานเลเซอร์คัทที่ช่วยให้แต่ละชุดดูน่าตื่นเต้นในทุกมิติ และที่น่าสนใจคือการหยิบเอาโครงเสื้อผ้าแนวเทเลอร์ที่เคยเป็นธรรมเนียมการแต่งตัวของผู้ชาย มาดัดแปลงให้กลายเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงในแนว Dramatic Fashion ทำให้เกิดความแปลกใหม่และแตกต่างอย่างลงตัว
นำเสนอผ่านโชว์ที่ออกแบบให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นไปกับความสับสนและความชัดเจนของอัตลักษณ์ ที่ถ่ายทอดผ่านผู้แสดงแบบหลากหลาย Identity โดยไม่จำกัดอยู่ในกรอบของธรรมเนียมในโลกแฟชั่นแบบเดิมอีกต่อไป
FLYNOW ดีไซเนอร์: สมชัย ส่งวัฒนา
ปิดฉากด้วยโชว์สุดท้ายของ Bangkok international fashion week 2023 ที่ชวนเราดื่มด่ำไปกับความโรแมนติกที่ไม่ใช่แค่หวานละมุนแต่ยังแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยเสน่ห์หา จากคอลเลคชั่น “Solar Eclipse” หรือ “จันทร์กอดอาทิตย์” ของ FLYNOW (ฟลายนาว)
ที่สะท้อนถึงการหลอมรวมจิตวิญญาณอันเข้มแข็งและอ่อนโยนซึ่งโอบกอดกันด้วยปัญญาแห่งรัก ผ่านผลงานการดีไซน์เครื่องแต่งกายที่แปลกใหม่ แฝงไปด้วยความดุ เสน่ห์อันร้อนแรง และความล้ำสมัยเหนือจริง เน้นเฉดสีดำ ทอง ขาว น้ำตาล เบจ สื่อถึงความงามทั้งด้านดำมืดและแสงสีทองที่ส่องเป็นวงแหวนงดงามจับใจยามจันทร์กอดอาทิตย์