สำหรับบางคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ หรือเคยประสบเหตุการณ์รุนแรง ย่อมมีผลกระทบต่อจิตใจ ในกรณีนี้เรียกภาวะดังกล่าวว่า ภาวะป่วยทางจิต PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder
เดือนตุลาคมเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นติดต่อกัน สำหรับบางคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ หรือเคยประสบเหตุการณ์คล้ายคลึงกันมาก่อนย่อมมีผลกระทบต่อจิตใจ ในกรณีนี้เรียกภาวะดังกล่าวว่า ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ภัยพิบัติ สงคราม การก่อจราจล การฆาตกรรม การปล้นฆ่า ข่มขืนเป็นต้น
บุคคลที่เผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวและรอดชีวิตมาได้ หรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการ ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่การงาน การดำรงชีวิต การใช้ชีวิตประจำวันไป
เช็กอาการภาวะ PTSD
ผู้เข้าข่ายเสี่ยงเป็นภาวะ PTSD ระยะที่ 1 มีอาการเครียดเฉียบพลัน มีระยะเวลาในการแสดงอาการช่วง 1 เดือนแรก ส่งผลต่อการเกิดอาการทางจิตประสาทขึ้นมาได้
ผู้เข้าข่ายเสี่ยงเป็นภาวะ PTSD ระยะที่ 2 ระยะเวลานานกว่า 1 เดือน อาจจะแสดงอาการยาวนานหลายเดือนหรือนานเป็นปีแล้วแต่บุคคล ลักษณะสำคัญ
- ตกใจกลัวรุนแรงโดยไม่มีเหตุกระตุ้น หรือเรียกว่า Flash Back
- อารมณ์ การรับรู้เปลี่ยนแปลงไปในทางลบ เช่น หม่นหมอง เมินเฉย
- มีอาการตื่นตัวมากเกินปกติ
- พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์นั้น
องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คําจํากัดความ PTSD ที่ซับซ้อนว่าเป็นความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังจากสัมผัสกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจเป็นเวลานานหรือซ้ําแล้วซ้ําเล่าซึ่งยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี แทนที่จะเป็นเหตุการณ์ one-time เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือภัยธรรมชาติ ประสบการณ์ที่อาจนําไปสู่PTSD ที่ซับซ้อนเกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนหรือหลายปี เช่น ความรุนแรงในครอบครัวเป็นเวลานานหรือการล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็ก
ประเภทของผู้ที่มี PTSD ที่ซับซ้อนอาจจะแสดงอาการดังนี้
- การตอบสนองทางอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นต่อแรงกดดัน เช่น การปะทุอย่างรุนแรง
- ความรู้สึกอับอาย รู้สึกผิด หรือไร้ค่า
- ความยากลําบากในการรักษาความสัมพันธ์
ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาวะ PTSD
- 70% ของผู้ใหญ่ประสบเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
- 20% ของผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจจะมีอาการ PTSD
- ในปีหนึ่งๆ ผู้คนประมาณ 13 ล้านคนประสบภาวะ PTSD
- 1 ใน 13 คนจะเกิดอาการ PTSD ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอื่นๆ อาจเกิดขึ้นในชีวิตของบุคคลที่อาจนำไปสู่ PTSD
- 49% ของเหยื่อการข่มขืนจะเป็นโรค PTSD
- เกือบ 32% ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงมีโอกาสพัฒนาเป็นโรค PTSD
- 16.8% ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุร้ายแรง เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือรถไฟ เป็นโรค PTSD
- 15.4% ของเหยื่อจากการยิงและแทงทำให้เกิดอาการ PTSD
- 14.3% ของผู้ที่ประสบกับการเสียชีวิตของคนใกล้ชิดอย่างกะทันหันและไม่คาดคิดทำให้เกิดอาการPTSD
- 10.4% ผู้ปกครองของเด็กที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงจะพัฒนา PTSD
- 7.3% ของผู้ที่พบเห็นการฆาตกรรมหรือการบาดเจ็บสาหัสหรือบุคคลอื่นทำให้เกิด PTSD
- 3.8% ของผู้ประสบภัยธรรมชาติมีโอกาสพัฒนาเป็น PTSD
วิธีช่วยเหลือผู้ป่วย PTSD
หากเชื่อว่าเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวกำลังประสบกับอาการของโรค PTSD มีหลายวิธีที่สามารถช่วยได้ตัวอย่างเช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับ PTSD ด้วยตนเองอาจเป็นประโยชน์ การทำความเข้าใจว่าภาวะนี้ส่งผลต่อคนที่รักอย่างไรสามารถช่วยให้เราควบคุมอาการและการรักษาได้ นอกจากนี้เราอาจต้องการเสนอให้เข้าพบแพทย์ตามนัดหรือเข้ารับการบำบัดเพื่อให้การสนับสนุนด้านอารมณ์
วิธีอื่นๆ ในการให้การสนับสนุนทางอารมณ์ ได้แก่ การเปิดโอกาสให้คนที่รักได้พูดคุยและฟังความคิดและข้อกังวลของพวกเขา การมีระบบช่วยเหลือที่เข้มแข็งอาจช่วยให้อาการที่เกี่ยวข้องกับ PTSD ดีขึ้นได้
เมื่อไหร่ควรไปพบนักบำบัด
ยิ่งได้รับการรักษาหลังจากประสบกับบาดแผลทางจิตใจเร็วเท่าไหร่ โดยเฉพาะหากเป็นเด็ก โอกาสที่จะเรียนรู้วิธีจัดการกับอาการก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การขอความช่วยเหลือจากนักบำบัดไม่ได้กำหนดเวลาจะช้าจะเร็วก็สามารถเข้าพบนักบำบัดได้ตลอด
ไม่ว่าบาดแผลที่เคยประสบมาจะเป็น "บาดแผลเล็กๆ น้อยๆ" หรือ "บาดแผลใหญ่" ที่ทำให้คุณเสี่ยงต่อการเกิดPTSD นักบำบัดสามารถจัดเตรียมเครื่องมือที่ช่วยให้เอาชนะมันได้ การรักษาจาก PTSD เป็นไปได้ ในขณะที่ด้านตรงข้ามของ PTSD คือความยืดหยุ่น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้รอดชีวิตจากการบาดเจ็บสามารถเอาชนะและเจริญเติบโตได้อีกครั้ง