เครื่องดื่มสุดไวรัลวนกลับมาอีกคร้ัง ล่าสุดเต่าบินออกเมนูต้อนรับฮาโลวีนกับเมนูช็อกเป๊ป! นำน้ำอัดลมผสมสารพัด 1 ในนั้นคือการผสมนม ที่ดูหมือนจะเข้ากันไม่ได้ แต่กลับเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน
ไอเดียการสร้างสรรค์เมนู หยินนั้นผสมนี้มีออกมาให้เราได้ท้าทายตลอด ไม่ว่าจะตอบรับเทศกาล หรือการแชร์จากอินเตอร์เน็ตจนกลายเป็นไวรัลให้ผู้คนได้ลองทำ 1 ในเมนูที่เคยเป็นไวรัลดังคือ "นมผสมน้ำอัดลม" โด่งดังจนกระทั่งแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมอย่าง เป๊ปซี่ เคยออกแคมเปญ That Is One Dirty Soda, Santa | Pepsi คือการนำเป๊ปซี่ใส่ลงในแก้วที่มีนมครึ่งแล้วผสมกัน และทานคู่กับคุกกี้
แน่นอนว่าเสียงจากผู้ที่ได้ลองชิมแตกออกเป็นสองฝั่ง ทั้งฝั่งที่ชื่นชอบ และฝั่งที่รู้สึกคลื่นไส้แม้จะยังไม่ลองดื่ม รวมทั้งยังเป็นกังวลเกี่ยวกับโทษในการผสมเครื่องดื่ม เนื่องจากกลัวว่ากรดในน้ำอัดลมเกิดปฏิกิริยากับนมกลายเป็นหินปูนเกาะในกระเพาะและลำไส้ ในกรณีข่าวดังกล่าว ทางรศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับการแชร์คำเตือนเรื่องการห้ามดื่มน้ำอัดลมผสมกับนม ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ว่า
"เนื่องจากมีการแชร์เตือนอย่างมากในโลกออนไลน์ อ.เจษฎา จึงได้ชี้แจงว่า การดื่มนมผสมน้ำอัดลมแล้วทำให้กรดในน้ำอัดลมเกิดปฏิกิริยากับนมกลายเป็นหินปูนเกาะในกระเพาะและลำไส้เป็นเรื่องเข้าใจผิด มันเป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาโปรตีนตกตะกอนในสภาพกรดเท่านั้น โดยตะกอนที่เกิดขึ้นคือโปรตีนที่อยู่ในสภาพก้อนนมที่ย่อยได้ยาก สุดท้ายหากใครดื่มนมผสมโคลาหรือกระทิงแล้วปวดท้อง ก็เกิดจากก้อนนมพวกนี้ และขึ้นอยู่กับการย่อยของแต่ละคน"
แม้จะไม่เกิดหินปูนอย่างที่กังวล แต่โภชนาการที่ได้รับจากเครื่องดื่มผสมนี้มันมีประโยชน์จริงหรือ? คาร่า ฮาร์บสตรีท MS RD LD จาก Street Smart Nutrition กล่าวว่า “การวัดค่าทางโภชนาการอย่างแม่นยำนั้นค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย”
ฮาร์บสตรีทกล่าวต่อว่า “ประการแรก ประเภทของนมมีความสำคัญ แม้ว่านมทั้งหมดจะมีปริมาณโปรตีนใกล้เคียงกัน แต่ก็มีปริมาณไขมันและแคลอรี่ต่างกัน ประการที่สอง อัตราส่วนมีความสำคัญ”
บลังกา การ์เซีย นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก Midssกล่าวว่า "ยกตัวอย่างเช่น หากใช้เป๊ปซี่กระป๋อง 12 oz. ผสมกับนม 1 แก้ว (8 oz.) ดังนั้นเครื่องดื่มแก้วนี้จะมีแคลอรี่อยู่ที่ 296 แคลอรี่ และปริมาณน้ำตาลที่ 53 กรัม
นั่นคือ เป๊ปซี่มีแคลอรี่ 150 และน้ำตาล 41 กรัม โดยเติมน้ำตาลทั้งหมดลงไป นมมี 146 แคลอรี่และมีน้ำตาล 12 กรัม ซึ่งไม่มีการเติมน้ำตาลเลย
แต่แล้วนมล่ะ? นมวัว 1 แก้ว ประกอบด้วยโปรตีน 8 กรัมและแคลเซียม 28 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการในแต่ละวัน ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพของกล้ามเนื้อและกระดูก
หากเป็นเช่นนั้น เราสามารถใช้เครื่องดื่มชนิดนี้ในการไดเอตได้หรือไม่? คำตอบคือ แม้จะมีนมผสมอยู่ และได้สารอาหารที่จำเป็นแล้ว แต่ปริมาณยังไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต ซ้ำยังมีน้ำอัดบมผสมอยู่ คุณค่าทางโภชนาการจึงลดลไปอีก
ฮาร์บสตรีทกล่าวว่า “ในขณะที่นมเป็นตัวเลือกที่มีสารอาหารหนาแน่น โดยให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นถึง 13 ชนิด พร้อมด้วยโปรตีน แต่ถูกเจือจางด้วยน้ำอัดลมไปแล้ว ผลกระทบที่สำคัญที่สุดคือน้ำตาล”
สำหรับชาวอเมริกันในปี 2020–2025 เผยแนวทางการบริโภคอาหาร โดยแนะนำให้ผู้ที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป รักษาปริมาณน้ำตาลที่เติมไว้ให้น้อยกว่า 10% ของการบริโภคแคลอรี่ ดังนั้น คนที่บริโภค 2,000 แคลอรี่ต่อวันควรจำกัดปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามาไว้ที่ 200 แคลอรี่จากน้ำตาลที่เติม ซึ่งเท่ากับประมาณ 12 ช้อนชา หรือ 50 กรัม ในส่วนของเครื่องดื่มนมผสมน้ำอัดลมทำให้ปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามาอยู่ที่ 41 กรัม