“อนุทิน” กำชับผู้ว่าฯ-นอ.ทั่วประเทศ วางตัวเป็นกลางในการจัดเลือก สว. ภายใต้หลัก “ ความแม่นยำ -สุจริตโปร่งใส-ใส่ใจในรายละเอียด“ ย้ำต้องไม่ให้ผิดพลาด ให้เกิดความสำเร็จ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด  

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การมอบนโยบายในการเตรียมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 ในภารกิจของกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าการสัมมนาวันนี้เป็นภารกิจสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย  ซึ่งกระบวนการในครั้งนี้เป็นการเลือกไม่ใช่การเลือกตั้ง และ ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ในกระบวนการ เพื่อให้ได้ สว. เข้าไปทำหน้าที่  

และเปิดเผยว่าได้อ่านกฎหมายเกี่ยวกับการปฎิบัติในการเลือก สว.จึงเข้าใจทุกคนเนื่องจากเห็นว่ากระบวนการสลับซับซ้อน และต้องกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และจะต้องทำให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนสามารถอธิบายให้กับประชาชนรับทราบและเข้าใจ ว่ากระบวนการดำเนินการด้วยความโปร่งใสสุจริต และพร้อมให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ ซึ่งหากดำเนินการไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของกระทรวงมหาดไทยต่อการบริหารราชการแผ่นดินในภาพรวม 

ยังขอให้ทุกคนให้สนับสนุนซึ่งกันและกันและร่วมกันผลักดันภารกิจสำคัญครั้งนี้ให้เกิดความสำเร็จให้ได้ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในระบอบรัฐสภาของรัฐสภา ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มีทั้งสภาล่างและสภาสูง แม้กระบวนการจะสลับซับซ้อนแต่ก็มั่นใจว่า กกต. จะให้ความร่วมมือและให้ความกระจ่างทำความเข้าใจให้ทุกคนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ 

“ผมยอมรับแต่มีพระกฤษฎีกาให้มีการเลือกวุฒิสภา รู้สึกว่ามันเป็นภารกิจที่มีความสลับซับซ้อนพอสมควรแต่สิ่งที่ผมมั่นใจ และปลอบใจตัวเองตัวเองตลอดเชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยสามารถทำได้ไม่เกินความสามารถของผู้ว่าราชการในอำเภอและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ เราต้องนึกว่างานนี้ไม่สำเร็จไม่ได้ ล้มเหลวไม่ได้เพราะหากล้มเหลวก็จะเกิดเกิดช่องว่างในกระบวนการระบอบประชาธิปไตยของประเทศเพราะประเทศจะต้องประกอบไปด้วย สส.-สว. หากทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จก็จะไม่มีวุฒิสภา แม้ในรัฐธรรมนูญจะบัญญัติไว้ว่าวุฒิสภาชุดเก่าจะยังสามารถรักษากันได้แต่ก็ไม่เหมือนกันจึงจะต้องทำให้เกิดระบบที่วุฒิสภาเป็นหนึ่งในฝ่ายนิติบัญญัติ ทำให้3เส้า ตุลาการ นิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารเกิดความสมบูรณ์“ นายอนุทินกล่าว 

นายอนุทินยังฝากย้ำบุคลากรในกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้กำกับและดำเนินดำเนินกระบวนการเลือก สว. ในทุกจังหวัดโดยมอบหลักการทำงาน 3 หลักการ คือ ประการแรกความแม่นยำในกฎหมายและระเบียบกติกาขอให้ทบทวนกติกาอย่างถี่ถ้วน ต้องรู้และเข้าใจเจตนารมย์ของกฎหมาย เพื่อที่บังคับใช้อย่างแม่นยำและตอบคำถามของประชาชนได้อย่างมั่นใจสิ่งสำคัญคือกติกาต่างๆจะต้องถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ  /ประการที่สองคือความสุจริตและความโปร่งใสที่ถูกถูกจับตามองมากที่สุดเช่นเดียวกับการเลือกตั้ง ซึ่งการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งทางการ เป็นกระบวนการของการเข้าสู่อำนาจ ย่อมเป็นที่สนใจจับตาหรือถึงขั้นจับผิดซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากไม่อยากให้สังคมจับผิดจะต้องจับผิดตัวเองก่อน 

โดยในประการที่สามคือการใส่ใจในรายละเอียด ขอให้มีการซักซ้อมเพื่อให้เกิดความแม่นยำและระหว่างการทบทวนกระบวนการก็จะทำให้เห็นจุดบกพร่องและสามารถแก้ไขอุดช่องโหว่ปัญหาได้ล่วงหน้า ซึ่งการเลือก สว. ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของระบบการเลือกแบบใหม่ แม้จะจะมีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่าทุกครั้งขอให้ทุกคนตั้งเป้าหมายสำคัญว่าจะต้องไม่มีความผิดพลาดใดใด หรือ Zero Error เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใดจะส่งผลต่อความมั่นใจในกระบวนการทั้งหมดในสายตาประชาชน 

“ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ คณะกรรมการระดับจังหวัดและอำเภอผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับจังหวัดและอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องศึกษาปฏิบัติตามแนวทางที่ได้รับในวันนี้อย่างเคร่งครัดและประสานการปฎิบัติกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอย่างใกล้ชิด ขอให้ทุกคนทุ่มเทมุ่งมั่นเพื่อให้การเลือก สว. ครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใสราบรื่นประสบความสำเร็จพร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อไป” นายอนุทินกล่าว