รัฐบาล ห่วงใยสุขภาพประชาชนหน้าฝน เชิญชวนกลุ่มเสี่ยง เข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรค-ลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน
นายชัย วัชรงค์ เผย ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เป็นช่วงฤดูกาลระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคโควิด 19 และโรคไข้หวัดใหญ่ และจากรายงานสถานการณ์โรคโควิด 19 รายสัปดาห์ล่าสุด (23 - 29 มิ.ย. 67) โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังคงพบรายงานผู้ป่วย-ผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ยังไม่เกินความสามารถของระบบการรักษาพยาบาล รวมทั้ง กรมควบคุมโรคยังได้เผยคำแนะนำล่าสุดของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) เป็นแนวทางการให้วัคซีนป้องกันโควิด 19 และไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2567- 2568
ซึ่งสามารถให้ได้ในครั้งเดียวกันและปลอดภัย รัฐบาลจึงขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้
นายชัย วัชรงค์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ออกคำแนะนำแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด 19 และไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปี 2567 - 2568 (เมื่อ 28 มิ.ย. 67) ซึ่งเป็นคำแนะนำสำหรับประชาชนในสหรัฐอเมริกา
โดยแนะนำให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรรับวัคซีนโควิด 19 เพื่อลดความรุนแรงของอาการจากภาวะแทรกซ้อน และการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล แนะนำให้กลุ่มเสี่ยง คือหญิงตั้งครรภ์และเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งในปี 2567 - 2568 วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ คือ H1N1 H3N2 และ B/Victoria ทั้ง 2 วัคซีนสามารถฉีดได้ในครั้งเดียวกัน และมีความปลอดภัย ช่วยลดความรุนแรงของอาการจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมถึงการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและลดการเสียชีวิต
นายชัย วัชรงค์กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมควบคุมโรคแนะนำประชาชนที่มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หรือสงสัยป่วยไข้หวัดใหญ่ หรือโควิด 19 ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แยกตัว ไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่นและรีบพบแพทย์
เนื่องจากหากกลุ่มดังกล่าวติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ โดยประเทศไทยได้มีคำแนะนำการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เป็นประจำทุกปี เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์การระบาดทุกปี เพื่อลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้ โดยประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี)
2. เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี
3. ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
4. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
5. ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
6. โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
7. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ทั้งนี้ "การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ สามารถลดอาการรุนแรงของโรคและความเสี่ยงในการเสียชีวิต อีกทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นโรคที่มีการแพร่ระบาดได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งในแต่ละปีประเทศไทยมีรายงานพบผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โควิด 19 อาจก่อให้เกิดอาการและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง รัฐบาลโดยกรมควบคุมโรค จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว เข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422"