ศาลปกครองสูงสุด มีมติยกคำร้อง บิ๊กโจ๊ก ยืนยันคำสั่งให้ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยมีรายงานว่า ในที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดวันนี้ ประกอบด้วยองค์ประชุมใหญ่คณะตุลาการจากศาลปกครองสูงสุด 57 คน พิจารณาประเด็นข้อกฎหมายในคดีที่พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 กรณีมีคำสั่งให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม
จากกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งกรรมการสอบสวน และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ชื่อ BNK Master จนถูกดำเนินคดีอาญา และถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในความผิดฐาน “สมคบฟอกเงิน” เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันฟอกเงิน โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับคดีนี้ มีรายงานว่า องค์คณะเล็กประกอบด้วยตุลาการ 5 คน พิจารณามีมติ 5 ต่อ 0 เห็นว่าคำสั่งให้ออกจากราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยขั้นตอนการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด องค์คณะที่พิจารณาสำนวนทั้ง 5 คน จะมีหน้าที่บรีฟข้อเท็จจริง เสนอความเห็นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด และจะมีการอภิปราย มีมติเป็นคำพิพากษาคำสั่งต่อไป จากนั้น จะแจ้งคู่กรณีทั้งหมด และประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ
ล่าสุด ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด มีมติยกคำร้องของพล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ กรณีถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีมติ 49 ต่อ 5